Daily Focus: Domestic and Selective Play
2023SET Target: 1700
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดและกรอบการเคลื่อนไหวค่อนข้างแคบ ดัชนีปิดลบบางๆ 1.09 จุด ณ สิ้นวัน โดยยังคงถูก Overhang จากความไม่แน่นอนทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 97 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่น 2.8 พันลบ. (สถานะใน Futures ไม่มีนัยยะนัก)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังคงแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องในกรอบ 1,525-1,545 จุด โดยขาดปัจจัยหนุน ตลาดยังคงจับตาการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องว่าจะได้ข้อสรุปในสุดสัปดาห์นี้หรือไม่ ส่วนในประเทศยังต้องตามเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่าจะเป็นคนของพรรคใด ส่วนราคาน้ำมันดิบพลิกกลับมาเป็นลบแรง หลังจากปรับขึ้นในช่วง 2 วันก่อนหน้า หลังจากรัสเซียออกมาขวางการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมของ OPEC+ ในการประชุมต้นเดือน มิ.ย. Bond Yield สหรัฐฯ พุ่งขึ้นแรง ทั้งความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ที่มากขึ้น รวมถึงโอกาสที่ FED จะยังไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อในช่วง 4 เดือน หลังค่อนไปในทางทรงตัวมากกว่าลง ทำให้เรายังมองสินทรัพย์เสี่ยงจะยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างจำกัด ส่วนประชุมกนง.สัปดาห์หน้าคาดขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2% เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร ประกัน ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นบวกระยะสั้นต่อกลุ่มส่งออก หรือมีรายได้สกุลต่างประเทศมาก โดยวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย. จากกระทรวงพาณิชย์ ส่วนระยะยาว 2H23 ความเสี่ยงที่ต้องติดตามยังคงเป็นเศรษฐกิจโลกที่คาดชะลอตัว ทำให้เรายังคงเน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic มากกว่า Global Play
กลยุทธ์ : ยังคงเน้นหุ้น Domestic และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มที่ฐาน 1,500+- จุด
หุ้นเด่นเดือนพ.ค. : BA, BDMS, CPALL, ICHI, TOA
หุ้นเด่นวันนี้ : BBL
- แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 185.77 บาท
- ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในยังเห็นทิศทางการเติบโตแข็งแกร่ง y-y จาก NIM ที่ปรับตัวขึ้นจากอานิสงส์ของดอกเบี้ยขาขึ้น และพอร์ตส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว ขณะที่คุณภาพหนี้คาดยังแข็งแรงจากฐานลูกค้าส่วนมากที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ Consensus คาดกำไรปี 2023 ที่ 3.4 หมื่นลบ. +16% y-y ราคาหุ้นยังเทรด Valuation ถูก ที่ PBV เพียง 0.57 เท่า เทียบกับก่อนโควิดที่ใกล้ 1 เท่า
- แนวรับ 158-156 บาท แนวต้าน 165-166.50 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$659 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$674 ล้าน จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลัง Nvidia รายงานกำไรดีกว่าคาดมาก เกาหลีใต้ไหลเข้า US$79 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทิศทางไหลออก และยังกระจุกที่ไทย US$80 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะชะลอการไหลเข้า โดยจับตาพัฒนาการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ และติดตามเงินเฟ้อ PCE เดือน เม.ย. คืนนี้
ประเด็นสําคัญวันนี้
(0) SHR โทนการประชุมนักวิเคราะห์เป็นกลาง ผู้บริหารมองว่าจะกลับมาเปิดโรงแรมที่มอริเชียสอีกครั้งในเดือน ก.ย. 23 ช้ากว่าที่เคยประเมินเดือน มิ.ย. 23 ทำให้กระทบเป็นลบต่อกําไรสุทธิราว 60 ลบ. อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในเดือน เม.ย. ยังแข็งแรง RevPar โรงแรมใน UK +20% q-q ฟิจิ +69% q-q ส่วนมัลดีฟและไทย -14% q-q และ −21% q-q จากปัจจัยฤดูกาล เราคาดธุรกิจใน UK จะกลับมามีกำไรใน 2Q23 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังไม่น่าตื่นเต้น เทียบกับโรงแรมอื่นๆ อย่าง MINT เบื้องต้นยังคงคาดการณ์กำไรปี 2023 ที่ 458 ลบ. และราคาเป้าหมาย 5.30 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) SYNEX เราประเมินตลาด PC และ Smartphone จะถึงจุดต่ำสุดในปี 2023 และฟื้นตัวในปี 2024 ตลาด PC โลกมีแนวโน้มกลับมาเติบโตปีละ 4.1% ในปี 2024-2025 จากการทยอยทดแทนเครื่องเดิม ขณะที่ Smartphone มีแนวโน้มเติบโตราว 2.5% ในปี 2024-2025 ระยะสั้นคาด SYNEX จะได้อานิสงส์จากการวางขาย iPhone15 Samsung Galaxy Z Fold5/ Flip5 ส่วนสินค้าในกลุ่มธุรกิจองค์กรมีแผนเจาะตลาดเพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอีก Catalyst ใน 2H23 อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มความต้องการสินค้า IT ที่ต่ำกว่าคาดในระยะสั้น ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2023 ลง 16% เหลือ 705 ลบ. -4% y-y ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17.20 บาท แต่ยังแนะนำ “ซื้อ”
(+) MSCI Rebalance มีผลราคาปิดวันที่ 31 พ.ค. Global Standard หุ้นเข้า MAKRO หุ้นออก JMT TU ส่วน Global Small Cap หุ้นเข้า JMT TIDLOR SAPPE SISB TU หุ้นออก ไม่มี
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 35.27 จุด หรือ -0.11% ปิดที่ 32,764.65 จุด นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังคงยืดเยื้อ
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก หลังเห็นการฟื้นตัวของหุ้น Tech อย่าง Nvidia
(0) ค่าเงินบาท ทรงตัว อยู่ที่บริเวณ 34.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 3.38% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรัสเซียประกาศขวางการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เพิ่มเติมในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ ที่ระดับ 71.94 ดอลลาร์/บาร์เรล 0.15%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 20.80 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,962.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 1,960.60 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.09%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 941.29 /-