บล.ฟิลลิป:

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ – ORI ร่วมทุนกับเจ้าของที่ ได้เปรียบด้านทำเล

Key Point

1Q66 รายได้ขายอสังหาฯส่วนของบริษัทฯลดลงทั้ง y-y และ q-q แต่ในส่วนของ JV เติบโตขึ้น y-y จากการร่วมทุนที่มากขึ้น มีรายได้ค่าบริหารโครงการที่เพิ่มขึ้น ช่วยดันกำไรสุทธิ 798 ลบ. +8.1%y-y -22.8%q-q, 2Q66 คาดรายได้โอนแนวราบและแนวสูงเติบโตกว่าไตรมาสแรก, ยอดโอนใน 1Q66 และ Backlog ที่เหลืออยู่ของปีนี้ รวมแล้วได้ถึง 72% ของเป้าทั้งปี คาดปีนี้ทำได้ตามเป้า ราคาพื้นฐาน 12.90 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เน้นร่วมทุนมองประโยชน์ได้มากกว่า

1Q66 Pre-sale 12,044 ลบ. +47.2%y-y +3.2%q-q ยังคงทำ All time high ได้ต่อ และทำได้ 27% ของเป้าทั้งปี, ORI เน้นไปที่การร่วมทุน JV Project เพิ่มมากขึ้น เพราะเนื่องจากจะได้รายได้ค่าธรรมเนียมเข้ามาเพิ่มแล้ว ยังสามารถร่วมทุนกับผู้ที่ถือครองที่ดินในทำเลที่ดีได้, ปัจจุบันยอดโอนในโครงการที่เป็น JV Project มีสัดส่วน 51% มากกว่ารายได้โอนอสังหาฯของ ORI ที่แสดงเป็นรายได้อยู่ในงบการเงิน ทำให้เห็นรายได้จากการขายอสังหาฯ ลดลงทั้ง y-y และ q-q แต่ในส่วนของ JV เติบโตขึ้น y-y จากการร่วมทุนที่มากขึ้น และไตรมาสนี้มีการร่วมทุนเพิ่มอีก 15 โครงการ ทำให้มีรายได้ค่าบริหารโครงการที่เพิ่มขึ้น และในส่วนของโรงแรมที่ฟื้นขึ้น อัตราการเข้าพักกลับมาดีทุกตึก ช่วยดันรายได้รวมขึ้นมาที่ 3,526 ลบ. +1.5%y-y-10.3%q-q, GPM อสังหาฯ 33.9% ลดลง q-q และ y-y ผลจากการโอนสัดส่วนแนวราบที่สูงขึ้น, กำไรสุทธิ 798 ลบ. +8.1%y-y -22.8%q-q

คาด 2Q66 ยอดขายยังโตขึ้น

ORI ทำยอดขายคอนโดค่อนข้างดี เนื่องจากเจาะกลุ่ม affordable เน้นกลุ่มวัยเริ่มทำงานเป็นหลัก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำให้เกิดจ้างงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความต้องการที่อยู่อาศัย, 2Q66 คาดยอด Pre-sale โตขึ้น q-q จากการเปิด 9 โครงการมูลค่ากว่า 1 หมื่นลบ., ส่วนรายได้โอนโต q-q จะได้จาก Park Origin Chula-Samyan ที่สร้างเสร็จปลาย 1Q66 และ The Origin E22 Station ที่ครบกำหนดโอนใน 2Q66, ส่วนแนวราบเปิดตัวเพิ่มขึ้น 3 โครงการ มูลค่า 3,800 ลบ. และมี Britania ครบกำหนดโอน 2 โครงการ มูลค่ามากกว่าไตรมาสแรก, ส่วน PRI เติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจบริการออกแบบและตกแต่งภายใน

คาดปีนี้ทําได้ตามเป้า

ยอดโอนใน 1Q66 และ Backlog ที่เหลืออยู่ของปีนี้ ถือว่ารวมแล้วได้ถึง 72% ของเป้ายอดโอนในปีนี้ ช่วงเวลาที่เหลือคาดว่าจะทำได้ตามเป้า, ปีนี้เน้นร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน (JV Landlord) คาดว่าทำให้ไม่มีกำไรจากมูลค่าเพิ่มของที่ดินในการขายบริษัทย่อยให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมทุนแบบปกติเหมือนปีก่อน คาดกำไรก่อนรายการพิเศษ 3,196 ลบ. +22.3%y-y จากโครงการแนวราบที่เปิดเพิ่มกว่าเท่าตัวในปีนี้ และคาดกำไรสุทธิปี 66 ที่ 3,619 ลบ. 4.1%y-y, ทางฝ่ายฯประเมินราคาหุ้น โดยใช้วิธี SOTP ราคาพื้นฐานปี 66 อยู่ที่ 12.90 บาท/หุ้น ปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าราคาพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ / อัตราการจ้างงาน / อัตราดอกเบี้ย
  2. ทำเลที่ตั้ง, ลักษณะโครงการ ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย
  3. ความเสี่ยงจากนโยบายรัฐ / การเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพื่ออยู่อาศัย
- Advertisement -