‘TRU’ พบนักลงทุนต่อเนื่อง แถลงผลงาน Q1/2566 กำไรเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน แง้มเล็งหาพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งระดับสากล
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRU ผู้ผลิตชิ้นส่วนและจัดจำหน่ายรถยนต์อเนกประสงค์สัญชาติไทย นำโดยนายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้เปิดเผยภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2566 ผ่านงาน Opportunity Day
โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 722 ล้านบาท โดขึ้น 6% และมีกำไรสุทธิ 79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้จากงานชิ้นส่วน OEM ของลูกค้ากลุ่มยานยนต์ และกลุ่มเครื่องจักรกลอุตสาหกรรม (Industrial Machinery) เพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาส 1 บริษัทได้เริ่มส่งมอบงานโปรเจ็คใหม่ คือ การผลิตห้องโดยสาร (Cabin) รถขุดตัก เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งลูกค้ามีความต้องการสูงขึ้น ทั้งนี้ จากการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการควบคุมต้นทุน ลดผลการขาดทุนของบริษัทลูก และการหารายได้เพิ่มจากทรัพย์สินของบริษัท เช่น การปล่อยเช่าโรงงานที่ยังไม่ได้มีการใช้งาน เป็นต้น จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง
นายสมพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TRU กล่าวว่า “คาดว่าภายในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ จะได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อรถ Transformer ประมาณ 150 คัน จากประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นโครงการล็อตใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังและปีหน้าด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดรถหุ้มเกราะกันกระสุน ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ จากกระทรวงกลาโหมแล้ว รวมทั้งรถ TR Transformer ซึ่งเราสามารถผลิตแบบ made to order ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เพื่อนำไปใช้ในภารกิจต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะเรามีศักยภาพแล้วความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิตยานยนต์มาอย่างยาวนาน ซึ่งภาพรวมธุรกิจของไตรมาส 2 อาจชะลอตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว และคาดว่าในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้จะดีขึ้น”
“สำหรับภาพรวมในปี 2566 ทาง TRU ยังตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน โดยมีแผนขยายฐานลูกค้า และเพิ่มรายได้ของบริษัทฯ จากงานผลิตชิ้นส่วนถังน้ำมันของมอเตอร์ไซค์ Big Bike และงานผลิตห้องโดยสาร (Cabin) รถขุดตัก ที่ขยายตัวมากเพราะผู้ผลิตใช้ไทยเป็นฐานการผลิต เพื่อส่งออกต่างประเทศ ตลอดจนงานที่อยู่ใน EV Value chain เช่น งานรับจ้างประกอบรถ EV ประเภทต่างๆ ให้กับผู้ผลิต Brand ใหม่ๆ ที่เป็น New comer ยังไม่มีโรงงานเป็นของตนเอง และการพัฒนารถไฟฟ้าในแบรนด์ของบริษัทเอง เช่น รถมินิบัส EV และรถ EV Truck ซึ่งเตรียมออกขายสู่ท้องตลาดในปีนี้ เพื่อตอบรับนโยบายลดก๊าซคาร์บอน (Net Zero) ของภาครัฐ”
“ทางบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต จึงอยู่ระหว่างการเจรจาและมองหาพันธมิตรในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การร่วม Joint Venture, การซื้อ Technical Assistant ฯลฯ ซึ่งบริษัทฯ เปิดกว้างในการมองหาพันธมิตรจากต่างประเทศ” นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม