บล.ฟิลลิป:

ไวส์ โลจิสติกส์ – WICE กำไรลงตามค่า Freight

Key Point

2Q66 จะฟื้นตัว q-q แต่ยังจำกัด จากค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ยังพื้นตัวน้อย q-q และเทียบ y-y กำไรยังลดลงมีนัยสำคัญจากปีก่อนฐานสูงตามค่าขนส่งทางเรือและทางอากาศที่สูง มองครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก แต่ด้วยกำไรครึ่งปีแรกคาดจะลดลงมาก จึงปรับคาดการณ์กำไรลงเป็น 368 ล้านบาท -33.6% y-y ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 7.90 บาท แนะนำ “ถือ”

1Q66 กำไร -64.9% y-y จากค่า Freight ทั้งทางเรือและอากาศที่ลดลง

1Q66 กำไร -64.9% y-y ที่ 55 ล้านบาท ตามรายได้ที่ลดลง -52.2% เหลือ 1,031 ล้านบาท จาก

1) ขนส่งทางเรือ: รายได้ -73% y-y ปริมาณขนส่งใกล้เคียงเดิม แต่ค่าระวางเรือ -80% เพราะปีก่อนได้ ประโยชน์จากโควิด ทำให้ตู้ขาดแคลนและท่าเรือแออัด ค่าระวางเรือสูง

2) ขนส่งทางอากาศ: รายได้ -28% ทั้งจากปริมาณและค่าระวางลดลง จากกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าส่งออกลดลงจากปีก่อน

3) ขนส่งทางบกข้ามแดน: รายได้ -20% เพราะปีก่อนมีรายได้พิเศษจากการเรียกเก็บค่าค้างคืน กรณีรถข้ามคืนในช่วงจีนปิดด่าน

4) ซัพพลายเชนโซลูชั่น: รายได้ +14% จากการเปิดคลังสินค้าเพิ่ม เป็น 35,800 ตรม. จากปีก่อน 24,000 ตรม. ต้นทุน -54.8% จากการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น และค่า Freight ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.5% จาก 15.9% และ SG&A -18.2% ทั้งจากค่าใช้จ่ายบริหาร และค่าใช้จ่ายขายที่ลดลงจากค่าคอมมิชชั่นที่แปรผันตามยอดขาย

จับมือกับพันธมิตรเพิ่มบริการและเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า

จับมือกับ “เอ็ม-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ” ขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซไปในกลุ่ม B2B2C เริ่มทยอยรับรู้รายได้ ตั้งแต่ 1Q66 โดย WICE จะทยอยรับงานจากเอ็ม-สแควร์เพิ่มขึ้น ทั้งให้บริการขนส่ง แพ็คสินค้า และจัดเก็บสินค้า คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ราว 100 ล้านบาท, เพิ่มพื้นที่คลังสินค้าทั้งของ WICE และที่คลังสินค้าของลูกค้า โดย 1Q66 ขยายคลังสินค้าเพิ่ม 4,000 ตรม. 2Q66 พื้นที่คลังเพิ่มอีก 20,000 ตรม. และครึ่งปีหลังอีก 21,000 ตรม. รวมถึงในปี 2567 จะมีพื้นที่เพิ่มอีก 55,000 ตรม. ซึ่งบางส่วนเป็นคลังที่ร่วมมือกับ SAT (สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ฯ) ในโครงการบริหารจัดการด้าน Green Logistics Hub พัฒนาคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าครบวงจรในพื้นที่กรุงเทพฯ และระยอง ซึ่งมีพื้นที่คลังของ SAT ที่จะพัฒนาที่สมุทรปราการและระยองรวมกันที่ 55,000 ตรม.

2Q66 แนวโน้มฟื้นตัว q-q และน่าจะเห็นชัดในครึ่งปีหลัง

ตามฤดูกาลแล้วธุรกิจจะมี low season สุดในไตรมาส 1 และปีนี้การส่งออกยังลดลง ซึ่ง ธปท. รายงานการส่งออกของไทยใน 1Q66 ติดลบ 2.4% ตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า แต่ ธปท. คาดการส่งออกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว  ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับดัชนี SCFI ซึ่งบอกแนวโน้มค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ ใน 2QTD ฟื้นตัวจาก 1Q66 +3% และในครึ่งปีหลัง ธปท. คาดการส่งออกขยายตัวดีขึ้นจากประเทศคู่ค้าสำคัญสหรัฐฯ เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น และจีนเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการสินค้ามีมากขึ้น ซึ่งมุมมองผู้บริหารก็ไปในทิศทางเดียวกันว่าการดำเนินงานจะกลับมาฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง รวมถึงรายได้ซัพพลายเชนที่ยังโตต่อเนื่อง จากพื้นที่คลังสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น

ETL บริษัทย่อยจะเข้าจดทะเบียนใน 3Q66 ผู้ถือหุ้น WICE มีสิทธิได้หุ้นจอง

ETL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 51% ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Transport Carrier) ระหว่างไทยและประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และจีน ที่เชื่อมต่อพรมแดนทางถนนและรางรถไฟ ยื่น filing เข้าจดทะเบียนใน mai แล้ว จะนำเงินไปลงทุนเพิ่มในยานพาหนะ และตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อขยายธุรกิจและบริการ คาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ใน 3Q66 โดยผู้ถือหุ้นของ WICE มีสิทธิได้หุ้นจองของ ETL (Pre-emptive Right) ซึ่งยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนและราคาจองซื้อ

ปรับคาดการณ์กำไรลง ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ถือ” ราคาพื้นฐาน 7.90 บาท

แม้จะฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่กำไร 1H66 คาดกำไรจะลดลงมากจากปีก่อนฐานกำไรสูงและค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ยังฟื้นตัวไม่มาก จึงปรับคาดการณ์รายได้ปีนี้ลงเป็น 4,955 ล้านบาท และปรับกำไรสุทธิลงเป็น 368 ล้านบาท -33.6% y-y อิง P/E ที่ 14 เท่า ราคาพื้นฐานปรับลงเป็น 7.90 บาท ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ” จากเดิม “ขาย”

ความเสี่ยง

1. เศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยน

2. การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง

3. กฎระเบียบของทางการ

- Advertisement -