ภาพรวมไร้ปัจจัยใหม่ๆ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อคืน

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones และสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการ เนื่องในวัน Memorial Day (วันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ)

Market Outlook

ประเมิน SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1530 – 1550 ภาพรวมไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ หลังวานนี้ดัชนีปรับขึ้นมา 0.66% เชื่อว่าตอบรับกับปัจจัยบวกจากการคลายกังวลเพดานหนี้ในสหรัฐฯไปแล้ว โดย Timeline หลังจากนี้จะเข้าสู่การพิจารณา ของ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเชื่อจะผ่านไปได้ สำหรับภายในประเทศวันนี้รอติดตามรายงาน มูลค่าส่งออกของไทย Bloomberg Consensus คาดว่าจะหดตัว 2%YoY และนำเข้าหดตัว 5.9%YoY พร้อมประเมินดุลการค้าขาดดุล 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากรายงานแล้วดีกว่าคาดหมายจะเป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้นเชิงจิตวิทยาพร้อมกับกลุ่มส่งออก (HANA KCE TU) ส่วนคืนนี้รอติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ จากสถาบัน CB เบื้องต้น Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 99 ลดลง จากเดือนก่อนหน้าที่ 101.3 และหากรายงานออกมาเช่นที่คาดหมายเท่ากับว่าเป็นระดับต่ำที่กว่า 100 ครั้งแรกในรอบ 1 ปี ข้อมูลในอดีตชี้ว่าตลาดหุ้นทั้ง S&P500 และ Dow Jones ส่วนใหญ่แล้วมักมีทิศทางเคลื่อนไหวทางเดียวกับความเชื่อมั่นผู้บริโภค แต่ปัจจุบันพบว่าความเชื่อมั่นกำลังลดลงต่อเนื่อง จึงควรระมัดระวังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีโอกาสจะปรับลงช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนคืนพรุ่งนี้ติดตามตำแหน่งงานเปิดรับสมัครในสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 9.4 ล้านตำแหน่ง นับเป็นระดับที่ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ 9.59 ล้านตำแหน่ง จากนี้ให้ติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับอัตราการว่างงาน ข้อมูลในอดีตชี้ว่าหากตำแหน่งเปิดรับสมัครงานน้อยลงจะตามมาด้วยการสูงขึ้นของอัตราการว่างงาน

เชิงกลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุน Trading มองแนวต้านทยอยทำกำไรที่ 1560 +/- ส่วนนักลงทุนระยะกลางถึงยาวยังมองดัชนีระดับปัจจุบันเป็นจังหวะสะสมบางตัวที่ Valuation ถูก อาทิ โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ค้าปลีก (CPALL HMPRO) สินค้า IT (COM7) สนามบิน (AOT) โรงแรม (MINT VRANDA) ส่งออก (KCE TU)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

COM7 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 37.00 บาท) คงมุมมองเชิง “บวก” สำหรับกลุ่ม IT พาณิชย์ของไทยเพราะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวที่จะไป เพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2023 และปี 2024

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72 บาท) มุมมองเชิง “บวก” ต่อกลุ่มพาณิชย์เพราะ 1) คาดว่ากำไรปี 2023-24 จะโตเฉลี่ยต่อปีที่ 21% 2) คาดว่าอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) จะโตแตะ 12% ในปี 2024 จาก 10.3% ในปี 2022 และ 3) งบดุลแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อเงินทุน (net D/E ratio) ที่ต่ำกว่า 1 เท่า

- Advertisement -