วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,520 / 1,512 แนวต้าน 1,530 / 1,537 ได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ รวมทั้งราคาน้ำมันที่รีบาวด์กลับขึ้นมา ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงจำกัด Upside ต่อเนื่อง
Our View? “รีบาวดีหน่อย”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,520 / 1,512 และแนวต้านที่บริเวณ 1,530 / 1,537 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ (Fiscal Responsibility Act) ซึ่งส่งผลทำให้สหรัฐจะรอดพ้นปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ กดดันทิศทางดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงล่าสุด Dollar Index อยู่ที่ระดับ 103.5+/- สอดคล้องกับ US Bond Yield ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.6%+/- สะท้อนเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าหาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอีกครั้ง คาดจะลดทอนบรรยากาศ Risk-off ของตลาดลงได้บ้าง อีกทั้งตลาดเริ่มกลับมาเพิ่มน้ำหนักถึงโอกาสในการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า หลังจากเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย (ULC) ใน 1Q66 ซึ่งเป็นมาตรการวัตรเงินเฟ้อตัวหนึ่งของ FED ปรับตัวขึ้นเพียง 4.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านออกมาสนับสนุนกับคงอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน เพื่อรอประเมินทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐ คาดจะส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ค. รีบาวด์ขึ้นได้ดีปิดที่ระดับ 70.10 ดอลลาร์ +2.01 ดอลลาร์ (+2.95%) ได้รับแรงหนุนจากการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ โดยสภาผู้แทนฯ เช่นกันขณะที่ตลาดยังคงติดตามการประชุม OPEC+ วันที่ 4 มิ.ย. นี้ ซึ่งก่อนหน้า นี้รัสเซียออกมาสนับสนุนให้ OPEC+ ไม่ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม แม้เจ้าชายซาอุดิอาระเบียจะส่งสัญญาณถึงแนวโน้มในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง คาดจะส่งผลให้ทิศทางราคา พลังงาน-หุ้นในกลุ่มพลังงานผันผวนในระยะสั้นได้บ้าง
สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เรายังมองตลาดหุ้นไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมือง กดดัน-จํากัด Upside ของตลาดได้อยู่ โดยต้องติดตามการประกาศรายชื่อ ส.ส. อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 14 ก.ค. 66 ซึ่งจะส่งผลให้ประเด็นอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะการพิจารณาการถือหุ้นสื่อของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราคาดว่า กกต. จะส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป มองเป็นสุญญากาศทางการเมือ งและทำให้การผลักดันนโยบายใหม่ๆ ล่าช้าออกไป คาดจะสร้างบรรยากาศความไม่แน่นอนให้ตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ ทยอยชื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ปรับตัวขึ้นได้ จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง หนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “SCB”
- กลยุทธ์ ทยอยชื้อสะสม แนวรับ 103.00 / 101.50 Target 108.00 / 115.00 Stop <100.00
- คาดแนวโน้ม 2Q’66 ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง จาก NIM ปรับเพิ่มขึ้น และ ECL มีแนวโน้มลดลง
- ทางเทคนิค ราคาอยู่ในกรอบขาขึ้น พยายามวกตัวกลับขึ้นอีกครั้ง พร้อม MACD และ SSTO วกตัวขึ้นเช่นกัน