บล.ฟิลลิป: (ภาคบ่าย) 02/06/66

• ดัชนี SET Index ภาคเช้าปรับตัวบวก 8.21 จุด (หรือ +0.54%) ไปอยู่ที่ 1,529.61 จุด แรงหนุนจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก หลังวุฒิสภาสหรัฐมีมติ 63 ต่อ 36 เสียงผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สาธารณะ ซึ่งขั้นตอนเหลือเพียง ปธน.สหรัฐฯ จะลงนามบังคับใช้ ทำให้สหรัฐจะรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้ หนุนให้ตลาดเอเชียภาคเช้าปรับขึ้น และส่ง Sentiment เชิงบวกมายังตลาดหุ้นไทย รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้ปรับขึ้นก่อนการประชุมโอเปก 4 มิ.ย.นี้ ช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็น Big Cap ให้บวกนำตลาด และบดบังความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยัง Over Hang
• มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET Index บ่ายนี้จะแกว่งตัวแคบๆในแดนบวก จากกลุ่มพลังงานที่ได้ราคาน้ำมันยืน 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วยสนับสนุน ส่วนกลุ่มแบงก์จะยังได้ประโยชน์จากการทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ย นำโดย BBL ที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้นำร่องไปแล้ว โดยคาดธนาคารอื่นจะเริ่มทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามมา ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวยังได้แรงหนุนจาก ททท.คาดนักท่องเที่ยวปีนี้จะเข้าไทยสูงถึง 25-30 ล้านราย อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากการเมืองในประเทศ ยังกดดันให้ต่างชาติมีโอกาสเดินหน้าขายหุ้นไทยต่อ ซึ่งคาดจะส่งผลให้หุ้นไทยปรับตัวบวกได้จำกัด คืนนี้สหรัฐจะเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน คาดข้อมูลจะอ่อนแอลง หนุนมุมมองโอกาสที่เฟดจจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในรอบเดือน มิ.ย. แต่ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ หลังกลับมาเปิดทำการในวันอังคารน่าจะได้รับผลกระทบจำกัด ขณะที่สัปดาห์หน้าตลาดหุ้นไทยเปิดทำการเพียง 4 วัน อาจทำให้วอลุ่มการซื้อขายวันนี้และอังคารหน้าดูเบาบาง
• Top pick: KBANK ทางฝ่ายยังมีมุมมองบวกต่อกลุ่มธนาคาร และคงน้ำหนัก “ลงทุนมากกว่าตลาด” หลังจากที่ กนง.ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 Bps สู่ 2.00% ไปแล้ว กลุ่มแบงก์ได้ทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก นำโดย BBL ทางฝ่ายจึงคาด KBANK จะทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม จึงมองเป็นจังหวะในการเข้าซื้อเก็งกำไรก่อนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ด้านตลาดสินเชื่อปีนี้คาดจะยังเติบโต ส่วนแผนธุรกิจได้มีการจัดตั้งบริษัท “เงินให้ใจ” เพื่อเจาะตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ถือเป็นความพยายามหาช่องทางรายได้ใหม่ ๆ เพื่อชดเชยกลุ่ม SME ที่มีความเสี่ยงสูง ราคาพื้นฐาน 165 บาท

หุ้นแนะนำบ่ายนี้ BH, BPP