เงินเฟ้อไทยขยายตัวต่ำกว่าตลาดคาด เป็นบวกต่อตลาดหุ้น

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดทรงตัว (+0.03%) ภาพรวมไร้ปัจจัยใหม่ๆ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับกับปัจจัยบวกต่างๆ ไปก่อนหน้าแล้ว ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.6% นักลงทุนกังวลกับเศรษฐกิจโลกหลังจากธนาคารโลกปรับลด GDP

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเงินเฟ้อไทยประจำเดือน พ.ค. ขยายตัวเพียง 0.5%YoY, -0.7%MoM ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.6% โดยเป็นผลจากราคาค่ากระแสไฟฟ้าที่ลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลงตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม -1.8%YoY ในส่วนของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ขยายตัว 4%YoY จากราคาข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง +3.6%YoY รวมไปถึงราคาผักสด +23.5%YoY ผลจากราคา มะนาว ต้นหอม อย่างไรก็ตาม ราคาสุกรและปลาช่อนปรับลง ปัจจัยข้างต้นมองเป็นบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้นจากดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มิจำเป็นต้องปรับขึ้นมากกว่านี้เท่าใดนัก เนื่องจากปัจจุบันดอกเบี้ยได้ปรับขึ้นมาสูงกว่าเงินเฟ้อแล้ว (ปัจจัยบวกต่อ Valuation) นอกจากนี้ยังมีหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ ร้านอาหาร (CENTEL M MINT) ตามต้นทุนการผลิตที่ลดลง กลุ่มการเงิน (MTC TIDLOR) ทิศทางดอกเบี้ยไทยที่คาดถึงจุดสูงสุด นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่กระแสเงินทุนต่างชาติจะเริ่มพิจารณาประเทศไทยมากขึ้น จากการที่เงินเฟ้อลดลงเร็ว พร้อมกับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงกว่าเงินเฟ้อ สวนทางกับหลายๆ ประเทศที่การขยายตัวของเงินเฟ้อสูงกว่าเศรษฐกิจ (Stagflation)

ขณะที่ภาพรวมเมื่อคืนหลายๆ สินทรัพย์เคลื่อนไหวทรงตัวไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งอายุ 2 และ 10 ปี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงตลาดหุ้น เชื่อว่านักลงทุนกำลังรอดูผลประชุม FED ในสัปดาห์หน้า เบื้องต้น CME FED Watch ประเมินว่าจะเห็นที่ประชุมคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม (5.25%)

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1520 – 1535 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะนำนักลงทุนทยอยสะสม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไทยยังดูแข็งแกร่งพร้อมกับ Valuation ที่ไม่แพง เน้นที่กลุ่ม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TTB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) สินค้า IT (COM7) ส่งออกอาหาร (TU)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

M (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท) SSSG ในเดือน เม.ย. 2023 บวกอยู่ที่ 22%YoY (MK ที่ +23% Yayoi ที่ +15% และแหลมเจริญ ซีฟู้ด (LCS) ที่ +30%) เราจึงคาดว่ากําไรจะฟื้นตัว QoQ ในทุกไตรมาสของปี 2023 หนุนจาก 1) คาดการณ์ว่า SSSG ที่แข็งแกร่งในช่วงเลือกตั้ง 2) เมนูพิเศษช่วงเทศกาลที่น่าจะช่วยกระตุ้น รายได้ขึ้น 3) อัตรากำไรที่ดีขึ้นหลังจากราคาขายเฉลี่ยขึ้นไปแล้ว 4% ในเดือน ก.พ. 2023

TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 32.00 บาท) ทิศทางการเติบโตจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในปี 2024-25 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะโต 23% YoY ในปี 2024-25 ต่อเนื่องจากที่คาดว่าจะโต 9% ในปี 2023 หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่โตขึ้น เพราะสินเชื่อที่ขยายตัว ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลง และ CIR ที่ลดลงเนื่องด้วยอานิสงส์จาก แพลตฟอร์ม omnichannel

- Advertisement -