บล.ฟิลลิป: (ภาคบ่าย) 07/06/66

Phillip Strategist Comments

• ดัชนี SET Index ภาคเช้าปิดทรงตัวในแดนลบ -2.87 จุด (หรือ -0.19%) ไปอยู่ที่ 1,525.67 จุด ขณะที่ฝั่งเอเชีย ส่วนใหญ่บวก นำโดยฮั่งเส็งที่ได้แรงหนุนนำในกลุ่มอสังหาฯ แม้ว่าจีนจะเผยการส่งออกเดือน พ.ค. -7.5% จากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง ทำให้จีนเกินดุลการค้าเดือน พ.ค. เพียง 6.58 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ -16.1% แต่ตลาดยังทรงตัวแดนบวกได้ ด้านในประเทศแรงหนุนจากความหวังเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยเพิ่มสูงขึ้น หนุน 4 เดือนแรกของปี 66 มียอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 159 ล้านลิตรต่อวัน หรือ +3.1%y-y หากไม่นับ LPG แล้ว ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นทุกมิติ โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้นสู่ 13.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ +92%y-y สอดคล้องกับ นทท.ต่างชาติที่เข้าไทยตั้งแต่ต้นปีแล้วกว่า 10.9 ล้านราย
• มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET Index ภาคบ่ายแกว่งแคบ โดยมองปัจจัยลบหลักมาจากปัจจัยภายนอก ทั้งจากเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้า, สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ปัจจัยลบในประเทศด้านการเมืองของไทย ทางฝ่ายมองตลาดซึมซับไปมากแล้ว กอปรกับแรงขายต่างชาติหลังแตะ 1 แสน ลบ. YTD เริ่มเห็นถึงแรงขายที่ชะลอลง ส่วนปัจจัยบวกในประเทศเริ่มทยอยมีเข้ามา โดยยอดนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยและความต้องการพลังงานเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกมิติได้สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เติบโต ซึ่งจะช่วยหนุนต่อทั้งกลุ่มท่องเที่ยว, Spending ขณะที่บาทอ่อนค่า 34.75 บาทต่อดอลลาร์ยังเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มส่งออก คืนนี้ติดตามสหรัฐเผยดุลการค้าเดือน เม.ย. และสต็อกน้ำมัน หากข้อมูลบ่งชี้เศรษฐกิจเชิงบวก จะส่งต่อ Sentiment ต่อดัชนีภูมิภาคในเช้าวันถัดไป
• Top pick: SCC ทางฝ่ายยังมีมุมมองบวกต่อ SCC หลังต่างชาติปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ด้านผลการดำเนินงานงวด 1Q66 กำไร 1.65 หมื่นลบ. (+87%q-q) ดีกว่าคาดจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน SCG Logistics สำหรับ 2Q66 คาดกำไรจะยังเติบโตต่อ จากการกลับมาเดินเครื่องโรงงานระยองโอเลฟินส์ ทางฝ่ายมองแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานจะทยอยลดลง ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีโอกาสเติบโตจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว คาดกำไรปี 66 ที่ 3.12 หมื่นล้านบาท ราคาพื้นฐาน 366 บาท