TEKA ตั้งเป้ารายได้ปี 66 ไม่ต่ำกว่า 2,200 ลบ. โต 13% มองหาธุรกิจใหม่ต่อยอด-ป้องกันความเสี่ยงในอนาคต
บมจ. ฑีฆาก่อสร้าง ตั้งเป้ากวาดรายได้ปี 2566 ไม่ต่ำกว่า 2,200 ลบ. เติบโตจากปีก่อน 13% “วีระศักดิ์
วานิชวัฒน์” บอสใหญ่ เผย ยังไม่จบครึ่งแรกปีนี้ได้เซ็นสัญญาก่อสร้างใหม่แล้ว 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,282 ลบ. ส่งผลให้ Backlog ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 เท่ากับ 3,105 ลบ. ล่าสุดเร่งศึกษาแผนลงทุนธุรกิจใหม่ หวังต่อยอดและขยายโอกาส รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงหากภาคอสังหาฯ ชะลอตัวในอนาคต
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างไว้ไม่น้อยกว่า 2,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตจากปีก่อน 13% และจะเพิ่มเป็น 22% ในปี 2567 ซึ่งในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการก่อสร้างรวม 1,933.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 338.66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.2% มีกำไรขั้นต้น 277.88 ล้านบาท และมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นเทียบกับรายได้จากการก่อสร้างคิดเป็น 14.38%
โดยในปีนี้บริษัทฯ เซ็นสัญญารับงานใหม่ไปแล้วมูลค่ารวม 1,282 ล้านบาท ได้แก่ ในเดือนมกราคม ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้าง “โครงการ นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง” มูลค่า 954 ล้านบาท จาก บริษัท คอนติเนนตัล ซิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเครือ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ระยะเวลาก่อสร้าง 16 เดือน โดยเริ่มต้นก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
และในเดือนเมษายนนี้ ได้เซ็นสัญญา “โครงการ ARLO LASALLE 17” มูลค่า 328 ล้านบาท จาก บริษัท เรียลลาซาล 17 จำกัด กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน เริ่มต้นก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2566 ส่งผลให้มีงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,105 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2568
ปัจจุบัน TEKA ยังมองหาธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ หรือเป็นธุรกิจที่สามารถสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อต่อยอดหรือขยายโอกาส และป้องกันความเสี่ยงหากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวในอนาคต
“TEKA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างมายาวนานร่วม 39 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญในงานอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ มีกลุ่มลูกค้าทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน เรามีความพร้อมในการขยายโอกาสการรับงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น อาคารคอนโดมิเนียม, โรงแรม, อาคารสำนักงาน, อาคารโรงพยาบาล และอาคารคลังสินค้า ซึ่งจากภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่สดใสในปีนี้ ส่งผลดีต่อ TEKA ที่จะมีโอกาสรับงานใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น และได้เร่งรัดงานก่อสร้างต่างๆ ที่มีอยู่ในมือให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อเพิ่มผลการดำเนินงาน ทั้งด้านรายได้ และอัตรากำไรให้ดีขึ้นจากปีก่อน” นายวีระศักดิ์ กล่าวในที่สุด