วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”

แนวรับ 1,550 / 1,545 แนวต้าน 1,565 / 1,572 Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศค าดการณ์ FED คงอัตราดอกเบี้ย แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงได้บ้าง

Our View? “ฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,550 / 1,545 และแนวต้านที่บริเวณ 1,565 / 1,572 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาเพิ่มขึ้น 2.8 หมื่นราย สู่ระดับ 2.6 แสนตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาด บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มชะลอความร้อนแรง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะคงอัตรา ดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ต่อไป ในการประชุม FOMC วันที่ 13-14 มิ.ย. เพื่อประเมินผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ อีกทั้งเศรษฐกิจสหรัฐยังเผชิญปัญหาธนาคารและความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงใน 3Q’66 คาดจะหนุนให้ FED คงอัตราดอกเบี้ยได้ต่อ

ขณะที่ดัชนี VIX Index ซึ่งวัดความผันผวน-กังวลของตลาด เช้านี้อยู่ที่ระดับ 13.6+/- ทำจุดต่ำสุดใหม่ สะท้อนตลาดมีความกังวลลดลง คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวกลับขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม คาดสัปดาห์หน้า ตลาดจะติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ เพื่อติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อสหรัฐอีกครั้ง ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวผันผวนปิดที่ ระดับ 71.29 ดอลลาร์ / บาร์เรล -1.24 ดอลลาร์ (-1.71%) จากรายงานสหรัฐ-อิหร่านใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ลงแล้ว โดยอิหร่านจะระงับโครงการพัฒนาแร่ยูเรเนียมและให้ความร่วมมือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ให้สามารถตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ได้ เพื่อแลกกับการที่อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว เราประเมินว่าประเด็นดังกล่าวคาดจะเป็นแรงกดดันระยะสั้นต่อทิศทางราคาน้ำมัน กระตุ้นแรงขายทำกำไรต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นได้บ้างในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยพร้อมอยู่ในฝั่ง Long SET50 Index Futures เรามองเป็นสัญญาณถึงแนวโน้มการชะลอการขายต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติในช่วงเดือนที่ผ่านมา คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Downside ของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดตลาดหุ้นไทยยังคงถูกจำกัด Upside จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังเป็นปัจจัย Overhang กดดันตลาดได้อยู่ ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว สําหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ปรับตัวขึ้นได้จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการ ท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3.) หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว 23.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์ที่เริ่มทยอยปรับตัวขึ้นบ้างแล้ว คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนาวันนี้ “MAKRO”

  • กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 38.00 / 37.00 Target 40.00 / 43.50 Stop <36.00
  • คาดผลประกอบการ 2H’66 ฟื้นตัวเด่น จาก SSSG ปรับตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
  • ทางเทคนิคเริ่มวกตัวขึ้นจากเส้นแนวโน้มขาขึ้น พร้อม MACD และ RSI วกตัวกลับ

- Advertisement -