บล.กรุงศรีฯ:
PATRANGSIT HEALTHCARE GROUP (PHG TB/ PHG.BK)
รพ.เอกชนแห่งแรก และเป็นที่นิยมในจังหวัดปทุมธานี
PHG เป็นรพ. เอกชนแห่งแรกในจังหวัดปทุมธานีและได้รับความนิยมอันดับต้นๆ เป็นศูนย์โรคหัวใจ 24 ชั่วโมง และเป็นรพ.เอกชนแห่งเดียวที่เป็นศูนย์รับส่งต่อการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวนระดับ 1 ของสปสช. เขต 4 PHG มีแผนเพิ่มความจุการรักษาผู้ป่วย OPD 24%, IPD 33%, ศูนย์ฟอกไต 114%, เพิ่มโควต้าสปส. 12.8% และขยายธุรกิจใหม่ครอบคลุมการรักษาโรคมะเร็ง, โรคเวชกรรมฟื้นฟู และโรคทางนรีเวช เพื่อรองรับอุปสงค์ทางการแพทย์ที่สูงขึ้น ตามการเปลี่ยนแปลงทางบวกของภูมิศาสตร์ และประชากรศาสตร์ในจังหวัดปทุมธานีและบริเวณใกล้เคียง เราคาดกำไร (ไม่รวมกำไรเกี่ยวกับโควิด) จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 21% ในปี 2022-2025F และประเมินมูลค่าเหมาะสม 8.7 พันลบ. (29 บาทต่อหุ้น)
รพ.เอกชนแห่งแรกในจังหวัดปทุมธานี
PHG ดำเนินงาน 3 รพ. ได้แก่ รพ.แพทย์รังสิต, รพ.แพทย์รังสิต2 และรพ. แม่และเด็ก รองรับลูกค้าทุกประเภทและทุกระดับในจังหวัดปทุมธานีและบริเวณใกล้เคียง PHG ให้บริการศูนย์การแพทย์ 18 สาขา และเป็นรพ.เอกชนแห่งเดียวที่เป็นศูนย์รับส่งต่อการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวนระดับ 1 ของสปสช. เขต 4, เป็นศูนย์แม่และเด็ก และเป็นศูนย์ฟอกไต PHG เปิดดำเนินการกว่า 36 ปี และได้รับความไว้วางจากลูกค้าเป็นอันดับต้น ๆ โดยมีผู้ประกันตนลงทะเบียนใกล้เต็มโควต้ากับสปส. จำนวน 156,000 คน PHG จะขายหุ้น IPO จำนวน 54 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจ, คืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
แนวโน้มกำไร (ไม่รวมกำไรเกี่ยวกับโควิด) เติบโตปีละ 21% ในปี 2022-2025F
จากการปลดล็อคอุปสงค์คงค้างของผู้ป่วยโรคไม่เร่งด่วน, สปส.ปรับอัตราเหมาจ่ายรายปีขึ้น 10.2% ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2023 และโควต้าเพิ่ม 12.8% ตั้งแต่ปลายปี 2024F และการขยายความจุ OPD 24%, IPD 33%, ศูนย์ฟอกไต 114% และขยายธุรกิจใหม่เช่น ศูนย์รักษาโรคมะเร็งครบวงจร, ศูนย์เวชกรรมฟื้นฟู และศูนย์รักษาโรคทางนรีเวช
แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นบวก
การเปลี่ยนแปลงในทางบวกของภูมิศาสตร์จังหวัดปทุมธานีและบริเวณใกล้เคียง โดยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีประชากรหนาแน่นและเป็นแหล่งงานที่ขยายตัวต่อเนื่อง มีสาธารณูปโภคครบครัน การเดินทางสะดวก และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทางด้านประชากรศาสตร์เป็นบวกเช่นเดียวกัน คนไทยอายุยืนยาวขึ้น และเป็นสังคมสูงวัย ทำให้เป็นโรคซับซ้อนและโรคเรื้อรังมากขึ้น การขยายตัวของสังคมเมืองและผู้มีรายได้ปานกลางเพิ่มขึ้น ส่งผลความต้องการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพมากขึ้น
เราประเมินมูลค่าเหมาะสม 8.7 พันลบ. (29 บาทต่อหุ้น)
เราประเมินมูลค่า PHG ด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด โดยใช้อัตราคิดลด 6.7% และอัตราเติบโตระยะยาว 1% ปัจจัยเสี่ยงได้แก่รายได้ทั้งหมดมาจากกลุ่มรพ.ที่ตั้งในบริเวณเดียวกัน และการแข่งขันที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต