Siamese Asset สร้างประวัติศาสตร์อสังหาฯ คว้ารางวัล EDGE Champion ผ่านมาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลกครั้งแรกในไทย
บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาฯ รูปแบบ Green Living ตอกย้ำกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจและโครงการอย่างยั่งยืน ตามแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวที่วางเป้าหมายไว้ โดยได้คว้ารางวัล EDGE Champion ผ่านมาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลก ได้สำเร็จครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ได้รับ Certificate ESG100 Company โดย สถาบันไทยพัฒน์ การันตีผลงานโดดเด่น มุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับรางวัล EDGE Champion มาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลก จากสถาบัน IFC (International Finance Corporation: IFC) สถาบันการเงินในเครือของธนาคารโลก (The World Bank Group) มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการลงทุนที่มีส่วนเกื้อหนุนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่ง SA เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับมาตรฐานนี้ครั้งแรกในประเทศไทย
ทั้งนี้ EDGE Champion เป็นมาตรฐานอาคารเขียวและการวัดผลการก่อสร้างอย่างยั่งยืน เป็นนวัตกรรมในการรับรองมาตรฐานความเป็นเลิศในการออกแบบอาคาร สำหรับตลาดเกิดใหม่ของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลกคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นรางวัลระดับองค์กรอย่างถาวร โดยองค์กรให้คำมั่นว่าจะพัฒนาโครงการโดยมี Edge รับรองผลงานการก่อสร้าง 80% หรือมากกว่านั้นของโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยมุ่งเน้นการประหยัดพลังงานใน 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ การใช้พลังงาน (Energy Efficiency) การใช้น้ำ (Water Efficiency) และการใช้วัสดุก่อสร้างอาคาร (Material Efficiency)
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้รับมอบประกาศนียบัตร “ESG100 Company ปี 2566” จากสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย และเป็นผู้จัดทำข้อมูลกลุ่มหลักทรัพย์ ESG นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 ซึ่งมอบให้กับบริษัทฯ ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG)
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน น้ำ และลดการใช้พลังงานในการผลิตวัสดุก่อสร้าง เลือกใช้ Materials ที่ช่วยลดผลกระทบจากคาร์บอนให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืนและการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่เป็นอาคารสีเขียว ซึ่งในอนาคตอาคารประหยัดพลังงานจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเมื่อเทียบกับอาคารทั่วไป สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดการเช่าและขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างดี” นายขจรศิษฐ์ กล่าว
โดยที่ผ่านมา ไซมิส แอสเสท ประสบความสำเร็จในการได้รับการรับรองขั้นต้นจากEDGE ไปแล้วถึง 2 โครงการ ได้แก่ Tribe Bangkok Sukhumvit 39 Hotel และ โครงการบ้านเดี่ยว Monsane’ Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA กล่าวว่า เป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดและส่งเสริมแนวปฎิบัติด้านการออกแบบอย่างยั่งยืนใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพโดยส่งมอบ “Asset of life ที่สร้างคุณค่าให้กับทุกการใช้ชีวิต” ให้กับลูกค้า คุณภาพสินค้าที่คุ้มค่ากับการลงทุน และสร้างการเติบโตที่มีมูลค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท
“ขณะนี้ SA เน้นการพัฒนา โครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบ-แนวสูง โดยมีโครงการที่กำลังพัฒนาทั้งหมด 10 โครงการ เป็นแนวราบ 4 โครการ และแนวสูง 5 โครงการ และโรงแรม 1 โครงการ ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเทคโนโลยีของการพักอาศัย และธุรกิจการเงินและการลงทุน มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยทุกโครงการที่เราพัฒนานั้น เล็งเห็นถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยใช้หลักธรรมภิบาลและใจจริง ซื่อตรงในการบริหารงาน เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
ปัจจุบัน Siamese Asset ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายในรูปแบบโครงการแนวราบและโครงการแนวสูง รวมทั้งสิ้น 30 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7.6 หมื่นล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) และธุรกิจอื่นที่สนับสนุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีก 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ธุรกิจโรงแรม2. ธุรกิจพื้นที่พาณิชย์เพื่อการเช่า 3. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 4. ธุรกิจเวลเนสแอนด์เฮลแคร์ 5. ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย และ 6. ธุรกิจการเงินและการลงทุน