SVR ปิดฉากโรดโชว์ เสนอขายหุ้นกู้ นลท.สถาบัน – รายใหญ่ ตอบรับดีเกินคาด พร้อมประสานเสียง เตรียมแห่จองซื้อ ระหว่างวันที่ 26 – 28 มิ.ย.นี้ ระบุดอกเบี้ย 7-7.35% จูงใจ
บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (“SVR”) ปลื้ม ปิดฉากโรดโชว์เสนอขายหุ้นกู้ กลุ่มนักลงทุน สถาบัน – รายใหญ่ (High Net Worth) แห่เข้าฟังเพียบ พร้อมประสานเสียงตอบรับสนใจซื้อหุ้นกู้ ระบุดอกเบี้ยจูงใจ 7-7.35% น่าลงทุน จากการที่บริษัทมีความสามารถทำกำไรสูงและมีความเสี่ยงต่ำ โดยหุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท เตรียมเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 26 – 28 มิถุนายนนี้ ขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท จ่อนำเงินซื้อที่ดินพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 440 ล้าน และชำระหนี้เงินกู้ยืม จำนวน 160 ล้านบาท ประกาศเดินเกมรุกขยายโครงการเพิ่มในอนาคต หวังสร้างมูลค่าเพิ่มของรายได้และกำไรให้เติบโตขึ้นแบบขั้นบันได สู่ระดับ High Growth ในอนาคต
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯได้นำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 6 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) ทั้งผ่านระบบออนไลน์ (Virtual Roadshow) และ on site ณ บริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดการจัดจำหน่าย ที่สนใจมองโอกาสเข้าลงทุนในหุ้นกู้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งจากโรดโชว์ดังกล่าวปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มนักลงทุนที่เข้าร่วมรับฟังข้อมูลเกินคาด ซึ่งเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯที่มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต พร้อมมองว่าดอกเบี้ย 7-7.35% จูงใจสำหรับการเข้าลงทุนในหุ้นกู้บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จากการที่บริษัทมีความสามารถทำกำไรสูงและมีความเสี่ยงต่ำ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท ครั้งที่ 1/2566 ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหุ้นกู้ชุดที่ 1 ไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุ 1 ปี 9 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7 ต่อปี และชุดที่ 2 ไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7.35 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ให้แก่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 29 มีนาคม 2568 และสำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 29 ธันวาคม 2568 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนทั้ง 2 ชุด ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. 67 เป็นต้นไป
โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ดังกล่าว ซึ่งเตรียมเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 26 – 28 มิถุนายนนี้
นายรณฤทธิ์ ยังกล่าวตอกย้ำถึงการเสนอขายหุ้นกู้ของ SVR ในครั้งนี้ว่า บริษัทฯมีแผนนำเงินจากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวไปชำระหนี้เงินกู้ยืม จำนวน 160 ล้านบาท และซื้อที่ดินพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 440 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโครงการในอนาคต สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มของรายได้และกำไรให้กับบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันยังตอกย้ำถึงศักยภาพการเติบโต สอดรับการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) พร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนโรดแมปการเปิดโครงการในปีนี้ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,619 ล้านบาท บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแนวทางกลยุทธ์สู่เป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมทอยเปิดโครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (บางกรวย-ไทรน้อย) มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 เป็นต้นไป ส่วนอีก 2 โครงการ คือโครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (ซอยประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท และโครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2566 และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาส 4/2566 เช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ปี 2566 บริษัทฯมีอัตราการเติบโตของผลการดำเนินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นตั้งแต่ไตรมาส2/2566 เป็นต้นไป จะเห็นถึงการส่งสัญญาณเชิงบวกของภาพรวมผลการดำเนินงานของ SVR ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลจากการเปิดตัวโครงการ 3 โครงการใหม่ และจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ผลดำเนินงานของ SVR เติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได สู่ระดับ High Growth อย่างแน่นอน