พักตัว รอดูสถานการณ์ / 1,540-1,560
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways to sideways down: แรงกดดันหลักมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง 4.35% สู่ระดับ $67.12 ต่อบาร์เรล จากการที่รัสเซียเพิ่มการส่งออกน้ำมัน รวมทั้งความกังวลต่อตัวเลขศก.ที่ซบเซาของจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคน้ำมัน อีกทั้ง Goldman Sachs ได้ลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลงสู่ $86 ต่อบาร์เรล จากการประมาณการครั้งก่อนที่ $95 ต่อบาร์เรล จากอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มที่จะสูงเกินคาดในปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ในทางกลับกัน ทางลงของ SET Index คาดถูกจํากัดจาก 1) แรงกดดันจากการเทขายสุทธิอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติที่ลดลง สะท้อนจากการซื้อสุทธิ 3 จาก 4 วันทำการล่าสุด 2) ความคืบหน้าของการเมืองไทย หลังสำนักงานกกต.จะเสนอเรื่องการรับรองส.ส.ในที่ประชุมกกต.ได้เริ่มพิจารณาในวันนี้ และ 3) ความหวังต่อการออก มาตรการกระตุ้นศก.ของรัฐบาลจีนอย่างไรก็ดี การซื้อขายในวันนี้ Volume อาจเบาบางลง เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามการเปิดเผย CPI เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของการประชุมเฟดและ Dot plot รอบเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว โดยคาดว่า CPI จะขยายตัว 4.1% y-y และ 0.1% m-m ชะลอลงจาก 4.9% y-y และ 0.4% m-m ในเดือนเม.ย. สอดรับกับผลสำรวจของเฟดนิวยอร์กที่พบว่าคาดการณ์ เงินเฟ้อของผู้บริโภคในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าปรับตัวลง 0.3% สู่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.64
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AAV, AOT, BDMS, BEM, BTS, CPN, ERW, MAJOR, MINT 2) ความหวังจีน กระตุ้นศก.: HANA, NER, SNNP 3) Anti-Commodity: BGRIM, GPSC, SCC, TASCO และ 4) Selective: ONEE, RS, WHA
ปัจจัยบวก
- ผอ.โครงการ TDRI Economic Intelligence Service ประเมินศก. ไทยช่วง 2H66 จะขยายตัวมากกว่า 1H66 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การส่งออกไปตลาดจีนและกําลังซื้อในประเทศ ส่วนเงินเฟ้อจะชะลอตัวน้อยกว่า 2% จากราคาพลังงานที่ลดลง
- CBI คาดอังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะศก.ถดถอยในปีนี้ได้ โดยมีแนวโน้มขยายตัว 0.4% ในปี 66 และขยายตัว 1.8% ในปี 67 เมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่คาดว่าจะหดตัว 0.4% ในปี 66 ก่อนที่จะขยายตัว 1.6% ในปี 67
- ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งของจีนเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว โดยเป็นการดำเนินการตามธนาคารรายใหญ่ที่เพิ่งลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อผนึกกำลังกันผ่อนคลายแรงกดดันด้านผลกำไรในการดำเนินธุรกิจ
ปัจจัยลบ
- Goldman Sachs ระบุว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีแนวโน้มจะเผชิญกับภาวะอ่อนแอต่อเนื่องไปอีกหลายปี พร้อมระบุว่าปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์จีนจะฉุดรั้งการขยายตัวของศก.จีน โดยความอ่อนแอจะเห็นได้เด่นชัดเป็นพิเศษในบรรดาเมืองชั้นรองและการระดมทุนของนักพัฒนาภาคเอกชน
- KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือเผยว่านายคิม จอง อึน ได้ส่งสารไปยังปธน.ปูติน โดยระบุว่าเกาหลีเหนือต้องการกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย นอกจากนี้ นายคิมประสงค์ที่จะร่วมมือกับปธน.ปูตินในการปกป้องความมั่นคงของโลก และสนับสนุนการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
PICKS OF THE DAY
AOT BUY
- เป้าหมาย 74.00/76.00 แนวรับ 70.00/71.00
- นักท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้น: จาก 5M66 นทท. เดินทางเข้าประเทศแล้ว 10.63 ล้านคน เติบโต 710% y-y โดย นทท. จีนอยู่ที่ 1.13 ล้านคน จะเร่งตัวขึ้นหลังสายการจีนขอเพิ่ม Slot เข้าไทยเป็น 400-500 เที่ยวบิน/สีปดาห์ใน มิ.ย. จากปัจจุบันที่ 100 กว่าเที่ยวบิน ทำให้ททท. ที่คาด นทท. ต่างชาติ ปีนี้ที่ 25-30 ล้านคน เป็นไปได้
- ผู้ใช้สนามบินยังเติบโตแข็งแกร่ง: จาก นทท. ที่ฟื้นตัว ทำให้ใน เม.ย. ผู้ โดยสารระหว่างประเทศ +419%, พ.ค. +237% และ 1-10 มิ.ย. +164% ทำให้ภาพดำเนินงานยังฟื้นตัวแข็งแกร่ง ในขณะที่ปี 2567 คาดผู้ใช้สนามบินจะกลับมาใกล้ก่อนโควิด ทำให้สัญญากับคิง เพาเวอร์ถูกปรับเป็นสัญญา สัปทานใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้น
NER BUY
- เป้าหมาย 4.90 / 5.00 แนวรับ 4.54/4.60
- ออเดอร์เต็ม: ยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลของจีนพุ่งขึ้น 55.5% ในเดือน เม.ย. จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง (ที่มา: infoquest), ซึ่ง NER มีลูกค้าหลักอยู่ในจีน ทำให้ปัจจุบันยังคงอัตรา กำลังผลิตได้ในระดับสูงที่ 95%
- พื้นฐานดี, Div. yield สูง: ปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวลง จากราคายางที่ฟื้นตัวช้าและการคาดการณ์ว่าราคายางเฉลี่ยปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อน แต่ราคาหุ้นที่ลงมามากเกินไปทำให้เป็นโอกาสลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี และมี Div. yield เฉลี่ยในอดีตอยู่ระดับสุงที่ 5.2% ต่อปี ซึ่งงบ 1Q66 มีเงินที่ลูกค้าจ่ายมัดจำค่าสินค้า 183 ลบ. เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เป็นตัวเลขหนึ่งที่บ่งบอกการเติบโตในอนาคตได้อย่างดี