ถนนทุกสายมุ่งหน้าไปที่เฟด / 1,555-1,575
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways up: โดยได้แรงหนุนจาก 1) การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนมิ.ย. โดย CME FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 91.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของปีนี้ที่สอดคล้องกับ Dot plot จากรอบการประชุมเดือนมี.ค. และ 2) กระตุ้นการฟื้นตัวของศก.จีน หลังธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย RRP เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.65 และปรับลดอัตราดอกเบี้ย SLF (แบบข้ามคืน, 7 วัน, 1 เดือน) อีกทั้งมีความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม หลังมีรายงานว่ารัฐบาลจีนกำลังพิจารณาที่จะออกมาตรการกระตุ้นศก.เป็นวงกว้าง ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การพลิกฟื้นภาคอสังหาฯและกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ นอกจากนี้ทั้งสองปัจจัยยังเป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดขึ้น 3.43% สู่ระดับ $69.42 บาร์เรล ซึ่งคาดว่าจะเป็น Sentiment ทางบวกต่อหุ้นในกลุ่ม พลังงานในวันนี้ อีกทั้งคาดว่า SET Index จะมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ สะท้อนจากการซื้อสุทธิ์ 4 จาก 5 วันทำการล่าสุด ขณะที่พรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่ตามเวลาของประเทศไทยติดตามผลการประชุมเฟดรอบเดือนมิ.ย.และการเปิดเผย Dot plot หลังการประชุม ทั้งนี้หากว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของปีนี้ใน Dot plot ยังอยู่ในระดับเดิม และการประมาณ การศก.ของเฟดยังคงเผยภาพทิศทางศก.สหรัฐฯ ที่ไม่น่ากังวล จะเป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในระยะต่อไป
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) จีนกระตุ้นศก.: DELTA, HANA, IVL, NER, PTTGC, WHA 2) Spending+ท่องเที่ยว: BEM, BTS, CPN, ERW, MAJOR, MINT 3) Big Cap.: AOT, BDMS, CPALL, GPSC และ 4) ราคาน้ำมันฟื้น: BCP, PTTEP, TOP
ปัจจัยบวก
- ที่ประชุมกกต.มีมติรับทราบว่าที่ส.ส. 330 ที่คนไม่มีเรื่องร้องเรียน และสั่งสำนักงานกกต.ไปพิจารณาให้ครบ 95% และเสนอให้กกต.พิจารณาในคราวเดียว
- กองศก.การท่องเที่ยวและกีฬาเผยประเทศไทยมีจํานวนนทท. ต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 มิ.ย. ทั้งสิ้น 11.41 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนทท.ต่างชาติแล้ว 4.72 แสนลบ.
- สหรัฐฯเผย CPI เดือนพ.ค. ขยายตัว 4.0% y-y และ 0.1% m-m ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 4.1% yy และ 0.2% m-m อีกทั้ง ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 4.9% y-y และ 0.4% m-m
- ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 2 พันล้านหยวน ผ่านข้อตกลง reverse repurchase ระยะ 7 วัน และปรับลด อัตราดอกเบี้ย reverse repurchase rate ลงมาที่ระดับ 1.9% จาก 2% โดยมีเป้าหมายกระตุ้นการฟื้นตัวของศก.
ปัจจัยลบ
- รอยเตอร์รายงานว่าจีนเริ่มต้นการซ้อมรบในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของไต้หวัน ซึ่งรวมถึงการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงจากเรือรบ ขณะที่สหรัฐฯและชาติพันธมิตรได้ดำเนินการซ้อมรบอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
- ไฟแนนเชียลไทม์เผยการผิดนัดชำระหนี้ในตลาดตราสารหนี้ขยะมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ นั้นได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ จากการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้เพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทที่มีความเสี่ยงจากต้นทุนการกู้ยืมแบบลอยตัว
PICKS OF THE DAY
HANA BUY
- เป้าหมาย 50.00 / 51.50 แนวรับ 46.00 / 47.00
- จีนหนุน: จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นลงที่ 1.9% จาก 2.0% และอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอีก 2 พันล้านหยวน, การออกมากระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้อุตฯอิเล็กทรอนิกส์ได้ประโยชน์เป็นอันดับต้นๆ, มอง HANA ได้ประโยชน์สุด มีหน่วยผลิต PBCA และ IC อยู่ในจีน มีสัดส่วนรายได้กว่า 16%, สูงกว่าหากเทียบกับ KCE และ DELTA
- ราคายังถูก: ราคาหุ้นปรับตัวลงจากผลประกอบการ 1Q66 ที่อ่อนตัว มองราคาฟื้นได้อีกเยอะเมื่อยักษ์ใหญ่อย่างจีนเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ, ปัจจุบัน PE 19.2 เท่า ต่ำกว่า KCE และ DELTA
GPSC BUY
- เป้าหมาย 63.00 / 64.75 แนวรับ 59.00 / 60.00
- ต้นทุนก๊าซลดลง: ราคาก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลง โดยปัจจุบันราคา LNG JKM อยู่ที่ราว 9.3 ดอลลาร์/MMBTU ลดลงมากกว่า 16% จากเดือนที่แล้ว ซึ่งก๊าซธรรมชาติเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงหลักของบริษัท
- เงินบาทแข็งค่า : เงินบาทที่แข็งค่า อยู่ที่ 34.5 บาทต่อดอลลาร์ เป็นผลดีต่อต้นทุนเงินกู้ยืมของบริษัท ณ1Q66 บริษัทมีเงินกู้สกุลดอลลาร์คิดเป็นสัดส่วน 18% ของเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งหมด
- ซื้อขายที่ระดับ P/BV ต่ำกว่าค่า เฉลี่ย 5 ปี: ปัจจุบันราคาหุ้น ลดลงมาค่อนข้างมาก ซื้อขายที่ระดับ P/BV ที่ 1.64 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี