บล.ไอร่า: 14/06/66

วันน้ีคาดตลาด “Sideway Up”

แนวรับ 1,555 / 1,550 แนวต้าน 1,570 / 1,577 CPI สหรัฐออกมาใกล้เคียงคาด สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐทยอยปรับตัวลดลง ทำให้ FED คาดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในคืนนี้

Our View? “แกว่งตัวขึ้นในกรอบจำกัด”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,555 / 1,550 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 / 1,577 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ +0.10% MoM และ +4.00% YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด และต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคไม่รวมอาหารและพลังงาน (Core CPI) เดือน พ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ +0.40% MoM และ +5.3% YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดเช่นกันและชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งหากพิจารณาจาก CPI ในส่วนของภาคบริการมีการชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันสู่ระดับเพียง 3.70% จากจุดสูงสุดในเดือน ก.พ. ที่อยู่ที่ระดับ 4.2% บ่งชี้อัตราเงินเฟ้อทางฝั่งอุปสงค์สหรัฐอยู่ในภาพการชะลอ ตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะพิจารณาในการส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC คืนนี้ โดยล่าสุด CME Fed Watch Tools ให้นํ้าหนัก 93% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. นี้ จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับราว 80%+/- อย่างไรก็ดี เราแนะนำระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังการประชุมบ้าง โดยแนะนำติดตาม Dot Plot เพื่อบ่งชี้คาดการณ์การขึ้น-ลดอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป จากค่ากลางในปัจจุบันปี’66 อยู่ที่ระดับ 5.125% และปี′67 อยู่ที่ระดับ 4.25% ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลง Dot Plot ในปีนี้-ปีหน้าเพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าอาจจะมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงช้ากว่าที่ตลาดคาด กระตุ้นแรงขายทำกำไรระยะสั้นได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Reverse Repurchase Rate ลง 0.1% สู่ระดับ 1.9%, ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) แบบข้ามคืน, ระยะ 7 วัน และ 1 เดือนลง สู่ระดับ 2.75%, 2.90% และ 3.25% คาดเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนหลังจากตัวเลข CPI ของจีนเดือน พ.ค. ออกมาเพียงระดับ 0.2% และถือเป็นสัญญาณของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนเพิ่มเติมได้อีกครั้ง คาดจะส่งผลให้มีสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเพิ่มเติมเป็นปัจจัยบวกอ่อนๆ ต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนนี้รีบาวด์กลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 69.42 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.30 ดอลลาร์ (+3.43%) คาดได้รับแรงหนุนจากการที่จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย Surprise ตลาดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจคาดจะสร้างความคาดหวังอุปสงค์น้ำมันในจีนฟื้นตัว รวมทั้งราคาน้ำมันคาดจะได้รับแรงหนุนจากการที่ FED น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจากเงินเฟ้อเริ่มลดลง กดดันทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า  เป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น คาดจะกระตุ้นหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดี ไดยยังให้น้ำหนักหลักไปกับการรอติดตามความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ยังเป็นปัจจัย Overhang กดดันตลาดได้อยู่ ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1).หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, และ BBL) ปรับตัวขึ้นได้จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น  รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3.) หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว 23.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์ที่เริ่มทยอยปรับตัวขึ้นบ้างแล้ว คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นได้