ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ไซด์เวย์ต่อ ติดตามปัจจัยเศรษฐกิจโลกหลากหลายในวันนี้
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ จะยังเทรดในกรอบแคบๆ (sideways)… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์แต่ยืนไม่ได้ ปิดลบเล็กน้อย (อ่อนแอกว่าที่เราคาด) ตามแรงขายทำกำไรหุ้น กลุ่มการบริโภค กลุ่มโรงแรม และกลุ่มอิเลกโทรนิกส์ ซึ่งเด้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง กล่าวคือ i) ผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อคืนนี้มีทั้งมุมบวกและลบ ในเชิงบวกคือเฟดคงดอกเบี้ยที่ 5.25% ตามที่เราและ consensus คาด และเฟดยังปรับเพิ่ม GDP growth สหรัฐฯ ปี 2566 เป็น +1.0% (เดิม +0.4%) แต่ในมุมลบนั้น เฟดปรับเพิ่มเป้าหมายดอกเบี้ยสิ้นปี 2566 เป็น 5.6% จากเดิม 5.1% ซึ่ง imply ว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งจากปัจจุบันสู่ 5.75% ii) ในวันนี้ ยังมีประเด็นเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามหลายอย่าง เช่น การประกาศดอกเบี้ย interbank 1 ปีของจีน รวมทั้งผลการประชุม ธ.กลางยุโรป (ECB) ในช่วงค่ำวันนี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า ECB จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ 4.00% นอกจากนี้ นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในคืนนี้ เช่น ยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. รวมทั้งยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพื่อชี้ทิศทางตลาดแรงงานสหรัฐฯ ด้วย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร BBL*, PLT, SCGP*
- BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 162 บาท / แนวต้าน 164.5 – 166.5 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 169 บาท (Stop loss 160 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก หลัง เฟด ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ (แม้จะพักในเดือนนี้) และ ธปท. ยังส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อ ขณะที่คาดฐานลูกค้าองค์กรของ BBL* ยังสามารถรับแรงกดดันเรื่องอัตราดอกเบี้ยได้ดี 3) PBV ยังต่ำเพียง 0.6 เท่า ยังต่ำค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 0.7 เท่า ขณะที่ Sentiment ต่างๆ เป็นบวก
- PLT (เป้าพื้นฐาน 2.0 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 1.24 บาท / แนวต้าน 1.31 – 1.35 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 1.40 บาท (Stop loss 1.21 บาท) 2) คาดเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีสัญญาการขนส่ง LPG ที่ชัดเจนจากลูกค้ารายใหญ่ คาดแนวโน้มกำไรปีนี้โต +24% YoY เป็น 109 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงาน 2H66 คาดจะโต HoH จาก i) เตรียมซื้อเรือขนส่งฯ ใหม่ ii) เริ่มรับรู้รายได้การขนส่ง LPG ให้ทาง OR เดือน ธ.ค. iii) การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวเต็มที่หนุนการใช้ LPG 3) Valuation ถูก ด้วย Forward PE ที่ต่ำเพียง 11.5 เท่า และ Dividend yield ปีนี้คาดไว้ที่ +/- 4.0%
- SCGP* (เป้าพื้นฐาน 50 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 40.75 – 42.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 45 บาท (Stop loss 38.25 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) โอกาสที่ประเทศจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนอุปสงค์บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคให้ฟื้นตัว ii) ต้นทุนการขนส่งที่ลดต่ำลงในขณะนี้จะช่วยหนุนการใช้บรรจุภัณฑ์ 3) Forward PE 29 เท่า คิดเป็นราว 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่คาดผลการดำเนินงานจะเริ่มทยอยฟื้นตัวใน 2Q66 และพื้นเด่นใน 2H66
หุ้นมีข่าว
(+) เปิดแผน อู่ตะเภา 4 หมื่นล้าน ชูกลยุทธ์ลงทุน แอร์พอร์ตซิตี้ ดันผู้โดยสาร 60 ล้านคน/ปี (กรุงเทพ ธุรกิจ) BA – BTS* – STEC* มั่นใจเพิ่มทุน รอผลตอบแทนระยะยาว 3 พันธมิตร “บีเอ-บีทีเอส-ซิโนไทย” ลุยเพิ่มทุนในยูทีเอ หนุนเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้าอู่ตะเภาตอกเสาเข็มปลายไตรมาส 4 ชี้ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้โครงการ เปิดแผนลงทุนเมืองการบิน 4 หมื่นล้าน ใช้กลยุทธ์แอร์พอร์ตซิตี้ ดึงผู้โดยสารเข้าไทยตามเป้าปีละ 60 ล้านคน เร่งดึงพันธมิตรต่างชาติ พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม หวังจัดอีเวนต์ระดับโลก พร้อมเปิดปี 2570
(+ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ / – กลุ่ม Non-bank) ธปท.ส่งสัญญาณ ขึ้นดอกเบี้ย” ต่อ ห่วงเงินเฟ้อไม่สงบ-ปลายปีเร่งตัว (กรุงเทพธุรกิจ) “แบงก์ชาติ” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ แม้ตัวเลขเดือนพ.ค.ต่ำคาด ย้ำทำนโยบายการเงินต้องมองยาว ห่วงเงินเฟ้อยังไม่สงบ ท้ายปีอาจกลับมาเร่งตัวได้ ชี้ต้องทำให้อยู่ในกรอบยั่งยืน
(+) SCB* กำเงินสด 8 แสนล. สร้างโอกาสเติบโตก้าวกระโดด ซื้อ-ควบรวม (กรุงเทพธุรกิจ) ตั้งเป้าปีนี้ “รายได้-กำไร” เพิ่มไม่ต่ำกว่า 10% “เอสซีบีเอกซ์” เผยมีเงินสด 8 แสนล้าน เล็งหาโอกาสโตก้าวกระโดด 1-2 ปี “ซื้อ-ควบรวมกิจการ” พร้อมขยายตลาดไปอาเซียน วางเป้าปีนี้ รายได้-กำไรโตอย่างน้อย 10% เดินแผน 3 ปี หวังธุรกิจเจน 2 มีสัดส่วนกำไร 10-15% ของทั้งกลุ่ม ส่วนธุรกิจเจน 3 ถึงจุดคุ้มทุน แจงราคาหุ้นกับที่เหตุนักลงทุนกังวลพอร์ตลูกหนี้สีฟ้าที่มี 2.8 แสนล้าน ลูกค้าส่วนใหญ่ฟื้นตัว-ตั้งสำรองครบ
(+) NEX ส่งรถกระหน่ำ ปูทางขยายอาเซียน (ทันหุ้น) NEX ย้ายเข้าหมวดยานยนต์แล้ว บิ๊ก “คณิสสร์ ศรีวชิระประภา” ชี้ทำให้ภาพชัด เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน เดินหน้าขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เต็มสูบ ดีมานด์พรึ่บ ชูจุดแกร่ง อีโคซิสเต็มดี ต้นทุนแข่งขันได้ ครึ่งปีหลัง 2566 ส่งรถเพียบ มั่นใจรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ลุยตลาดอาเซียนหลายประเทศ ซึ่งรัฐบาลใหม่หนุนอีวีปลายปีมีบิ๊กเซอร์ไพรส์
(+) PLT ชงบอร์ดซื้อเรือใหม่ หนุนงบครึ่งหลังโดด (ทันหุ้น) PLT ชงบอร์ดซื้อเรือใหญ่ 1.7 พันตัน ปล่อยให้เช่าในเวียดนาม กดปุ่มเดินเครื่องช่วงครึ่งปีหลัง หนุนรายได้-มาร์จิ้นโตสนั่น ด้านผู้บริหาร “วราวิช ฉิมตะวัน” ลุ้นรายได้โตทะลุ 30% จ้องบริการ OR* ท้ายปี ดันขนส่งทางรถทะยาน 200%
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- ERW* (เป้าพื้นฐาน 6.3 บาท) แนวรับ 4.72 บาท / แนวต้าน 4.96 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 4.70 บาท)
- BCH* (เป้าพื้นฐาน 23 บาท) แนวรับ 18.2 บาท / แนวต้าน 18.7 – 19.1 บาท (Trailing stop 18.1 บาท)
- IP (เป้า Consensus 19.55 บาท) แนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 13.5 – 13.9 บาท (Trailing stop 12.4 บาท)
- AAV* (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนวรับ 2.86 บาท / แนวต้าน +/- 3.0 บาท (Stop loss 2.84 บาท)
- PJW (เป้าพื้นฐาน 6.8 บาท) แนวรับ 4.4 บาท / แนวต้าน 4.5 – 4.6 บาท (Stop loss 4.4 บาท)
- SPALI* (เป้าพื้นฐาน 24.6 บาท) แนวรับ 21.1 บาท / แนวต้าน 21.6 – 21.9 บาท (Stop loss 20.6 บาท)
- BAFS (เป้าพื้นฐาน 4 36.5 บาท) แนวรับ 32 บาท / แนวต้าน 32.5 – 34.0 บาท (Stop loss 31 บาท)
- GFPT (เป้าพื้นฐาน 17.7 บาท) แนวรับ 12.0 บาท / แนวต้าน 12.7 – 13.1 บาท (Stop loss 11.9 บาท)
- COM7* (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) แนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 29.5 – 30.5 บาท (Stop loss 28 บาท)
- AEONTS* (เป้าพื้นฐาน 210 บาท) แนวรับ 199 บาท / แนวต้าน 203 – 207 บาท (Stop loss 198 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- AOT* แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 86 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน ทั้งจํานวนนักท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้า (Cargo business)