บล.กรุงศรีฯ:
INVESTMENT STRATEGY – Fed คงดอกเบี้ยเดือน มิ.ย. แต่งานยังคงไม่จบ
- What’s new?
Federal Reserve ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 5-5.25% ในการประชุม 2 วันในเดือนมิถุนายน ถึงแม้ผลการะประชุมจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ แต่ Fed บอกว่าการตัดสินใจรอบนี้ให้ความสำคัญกับการประชุมคราวนี้เท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่า FOMC จะต้องการเวลามากขึ้นเพื่อประเมินผลกระทบสะสมจากการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวต่อระบบเศรษฐกิจในการกำหนดนโยบายในอนาคตเพื่อดึงให้เงินเฟ้อกลับมาอยู่ภายในเป้าหมาย 2% หมายความว่าการหยุดขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ยังนับเป็นแนวโน้มไม่ได้ นอกจากนี้ประมาณการ dot plots ใหม่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 25bps อีกสองครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ย Fed funds rate ขึ้นไปอยู่ที่ 5.6% (จาก 5.1%) และยังสอดคล้องกับการที่ Fed ได้ปรับเพิ่มประมาณการ core PCE เป็น 3.9% (จาก 3.6%) และปรับลดประมาณการอัตราการว่างงานลงเหลือ 4.1% (จาก 4.5%) อย่างไรก็ตาม เรามองว่าการตัดสินนโยบายของ Fed ในอนาคตจะขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมาในอีกหกสัปดาห์ข้างหน้า และหลังจากนั้น เราแนะนำให้ผู้อ่านมุ่งความสนใจไปที่กระบวนการ disinflation ของ “ภาคบริการที่ไม่รวมที่พัก (services excluding shelter)” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่ออัตราเงินเฟ้อ
- Analysis
ถึงแม้ว่าตลาดจะคาดเอาไว้แล้วว่า Fed จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ แต่การที่ Fed บอกว่าอาจจะยังขึ้นไม่จบรอบของการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งอยู่เหนือความคาดหมาย และจะฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วงเดือนต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากตลาดงานยังคงแข็งแกร่งเกินไป และเงินเฟ้อยังสูงอยู่ ที่น่าสนใจคือ กระบวนการ disinflation เกิดขึ้นช้ากว่าที่ Fed คาดเอาไว้ ดังนั้น ตลาด future จึงประเมินว่ามีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นที่ 63% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26 กรกฎาคม (จาก 51% ก่อนการประชุม FOMC เดือนมิถุนายน) ทั้งนี้ yield curve ของสหรัฐแคบลง (flattening) โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.707% ในขณะที่ของพันธบัตรอายุยาวลดลงเหลือ 3.794% เราแนะนำว่าในขณะที่แนวโน้มนโยบายในระยะสั้นยังมีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนควรมุ่งความสนใจไปที่สองรายการสำคัญที่มีน้ำหนักกับเงินเฟ้อ และยังคงสูงเกินไปซึ่งได้แก่ราคาของ (i) ที่พัก และ (ii) รถมือสอง เรามองว่าตลาดที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอในขณะนี้ และค่าเช่าที่ลดลงในการต่อสัญญาน่าจะฉุดให้เงินเฟ้อในหมวดที่พักลดลงในเดือนต่อ ๆ ไป ในขณะเดียวกัน อุปสงค์ที่แผ่วลง, ภาวการณ์ขาดแคลน chip ที่คลี่คลายลงไป และราคารถใหม่ที่ลดลงน่าจะฉุดให้ราคารถมือสองลดลง ซึ่งจากตัวเลข super core inflation ที่ตัดสองรายการข้างต้นออกไปเพิ่มขึ้นเพียง 0.09% เท่านั้นในเดือนพฤษภาคม ดังนั้น เราจึงยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะลดลงเร็วขึ้นในเดือนต่อ ๆ ไป ซึ่งจะทำให้ Fed คงดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับปัจจุบัน