บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Thai Union Group (TU TB) ลดประมาณการกำไรสะท้อนราคาทูน่าเพิ่ม

ปรับราคาเป้าหมายเหลือ 14.30 บาท คงคำแนะนำ “ถือ”

เราคงคำแนะนำ “ถือ” TU ราคาเป้าหมายปรับลงเป็น 14.30 บาท (forward PE 12 เท่า) จาก 14.60 บาท เราปรับลดประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนอุปสงค์ที่ลดลงและราคาปลาทูน่าที่สูงกว่าคาด โดยคาดกำไรจะยังคงอ่อนแอใน 2Q66 (ประกาศงบ 7 ส.ค.) เนื่องจากลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อและราคาทูน่าเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า TU จะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในระดับ 5% ขณะที่คะแนน ESG ของ TU ซึ่งประเมินโดยระบบของ Maybank อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาได้อีก

ปรับลดประมาณการกำไร สะท้อนอุปสงค์ลดลงและราคาทูน่าสูง

เราปรับลดคาดการณ์กำไรปี 66/67 ลง 18% และ 13% ตามลำดับ ทั้งนี้ จากความต้องการของลูกค้าที่ลดลง เราจึงปรับประมาณการยอดขายปี 66 เป็น -3% YoY จาก +3% เทียบกับเป้าหมายของ TU ที่คาดจะเติบโต 3-4% เรายังปรับลดคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นปี 66 ลง เหลือ 16.4% จาก 17.8% เทียบกับเป้าหมายของ TU ที่ 17.5-18.0% เพื่อสะท้อนราคาวัตถุดิบ ปลาทูน่าที่สูงกว่าคาด โดยราคาปลาทูน่าในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 25% YoY เป็น 2,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาเฉลี่ย 5M66 เพิ่มขึ้น 11% YoY เป็น 1,892 เหรียญต่อต้น เราคาดว่าราคาปลาทูน่ามีแนวโน้มยังคงสูงใน 3Q66 จากปัจจัยด้านฤดูกาลและผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ

คาดการณ์กำไร 2Q66 ยังชะลอตัว

เราคาดว่ากำไร 2Q66 ลดลง 17% YoY เป็น 1.35 พันล้านบาท ยอดขายลดลง 9% YoY เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงในกลุ่มอาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากลูกค้ายังคงมีสต็อกเดิมอยู่ อีกทั้งลูกค้าอาจชะลอการสั่งซื้อเนื่องจากราคาปลาทูน่ายังคงสูง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 53 bps YoY เป็น 16.4% เนื่องจากการปรับขึ้นราคาของ TU ไม่สามารถชดเชยราคาปลาทูน่าที่สูงขึ้นได้ทั้งหมด ขณะที่ Red Lobster มีแนวโน้มขาดทุนลดลงเหลือ 180 ล้านบาท จากขาดทุน 281 ล้านบาทใน 2Q65 เนื่องจากปรับเพิ่มราคาและประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น เราคาดว่า TU จะจ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรก 0.30 บาท/หุ้น

คะแนน ESG ดี ภายใต้นโยบาย ‘SeaChange’

ตามระบบการให้คะแนน ESG ของ Maybank เราประเมินคะแนน TU ที่ 72 (จากคะแนนเต็ม 100) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 50 คะแนน โดยนโยบายความยั่งยืนระดับโลกของ TU คือ SeaChange” ครอบคลุมทุกแง่มุมของธุรกิจอาหารทะเล บริษัทมีเป้าหมาย ESG ที่ชัดเจน สำหรับปี 68 โดย TU มีค่า Carbon Intensity ในสินค้าสำเร็จรูป (ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตไฟฟ้าต่อปี) ที่ 0.67 tCO2e/tFG ในปี 64 ลดลงจาก 0.69 ในปี 63 แต่ยังควรลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าลง ส่วนด้านสังคม Turnover rate ของพนักงานมีแนวโน้มเชิงบวก แต่ยังมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนปริมาณพนักงานและผู้บริหารหญิง

- Advertisement -