สรุปภาวะตลาด
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้น DELTA +9.50 (+9.31%) ซึ่งส่งผลต่อดัชนีราว 49.7 จุด การปรับตัวลงของดัชนี เกิดจากความกังวลว่าเฟดมีการส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปี ทำให้มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มการเงิน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,557.71 จุด -3.44 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 47,156 ลบ. ต่างชาติ -1,612.51 ลบ. TFEX +21,765 สัญญา ตราสารหนี้ -1,797.49 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 428.73 จุด +1.26% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่ทําให้ตลาดคาดว่า FED ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ +3.44% ปิดที 70.62 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของ ดอลลาร์ รวมทั้งรายงานการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นในประเทศจีนซึ่งบ่งชี้ ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนปรับตัวสูงขึ้น
+/- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น ครั้งที่ 8 ติดต่อกัน
+ กรมการขนส่งทางบกเปิดเผยว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค.2566 มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ทั้งสิ้น 32,450 คัน เพิ่มขึ้น 474.43%YoY แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
+ กรมการค้าภายในคาดว่าอีก 2-3 สัปดาห์ สถานการณ์ไข่ไก่จะกลับสู่ภาวะปกติ หลังอากาศเริ่มเย็น ย้ำดูแลผู้บริโภคต่อเนื่อง
+ Window Dressing ปลายงวด 2066 ที่จะสิ้นสุดเดือนมิ.ย.
ปัจจัยลบ-
– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลง 0.6%MoM ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 67% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. และจากนั้นจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธ.ค.ปีนี้
– นสพ.วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าญี่ปุ่นกำลังเจรจาเพื่อจัดหากระสุนปืนใหญ่ให้สหรัฐ เพื่อนำไปใช้ในการสนับสนุนการตอบโต้รัสเซียของยูเครน
– นายกเทศมนตรีเมืองศรีวิก (Kryoyi Rih) ของยูเครนเปิดเผยว่า ขีปนาวุธรัสเซียตกใส่โรงงานอุตสาหกรรม 2 แห่งในเมืองศรีวิริกทาง ภาคกลางของประเทศยูเครน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากตลาดคาดหวังว่าเฟดใกล้จะยุติ จาการปรับชื้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,550-1,565 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นปันผลดี : TISCO INTUCH, หุ้นเด่นเกาะ Megatrend : BE8 BBIK GABLE, หุ้นยั่งยืน : EA WAVE, หุ้นเติบโตใน EEC : AMATA WHA ORI, หุ้นพื้นฐานเด่น : PJW XO
- สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. ที่ยังขยายตัวได้ดี : GFPT TFG
- หุ้นเข้า FTSE SET Index : Large Cap เข้า MAKRO TRUE ออก BEM DIF Mid Cap เข้า BEM BTG DIF ITC SAPPE SISB SNNP SCAP ออก CPNREIT RAM SINGER TRUE VIBHA XPG มีผล 19 มิ.ย.
หุ้นรายงานพิเศษ
TFG (Bloomberg Consensus 5.85 บาท) แนวโน้มราคาไก่ฟื้นตัว 2Q66
- งวด 1Q66 มีรายได้ 13,890 ลบ. +31%YoY, -6%QoQ และมีกำไรสุทธิ 425 ลบ. -31%YoY, -62%QoQ สาเหตุมาจากปริมาณขายไก่ลดลงเหลือ 6.2 หมื่นต้น -14%YoY ด้านต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวขึ้น 12% YoY กดดันอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 15% ใน 1Q65 เหลือ 13% ส่วนธุรกิจค้าปลีกปัจจุบันมี 239 สาขา สร้างรายได้ 1Q66 เท่ากับ 3,459 ลบ. +241%YoY โดยคิดเป็น 25% ของรายได้ทั้งหมด
- ผบห.ตั้งเป้ารายได้ 2Q66 ฟื้นตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดไข้หวัดนกในยุโรป ส่งผลให้ราคาไก่เดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้นจาก 45 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 46 บาทต่อกิโลกรัม +2%MoM โดยสัดส่วนรายได้จากยุโรปคิดเป็น 33% จากมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ขณะที่บริษัทเร่งเพิ่มยอดขายในร้านค้าปลีกเป็น 150,000 บาทต่อวันต่อสาขา +7%QoQ
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 2Q66 เนื่องจากตลาดต่างประเทศยังมีความกังวลไข้หวัดนก ทำให้แนวโน้มยอดคำสั่งซื้อไก่จากต่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ของบริษัท ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 66 เท่ากับ 2,756 ลบ. -42%YoY ปัจจุบันสามารถทำได้ 16% จากประมาณการทั้งปี ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา -10%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 19 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) HTC (Bloomberg consensus 48.00 บาท) ส่งซิกครึ่งหลังปี 2566 ฟอร์มแจ่ม อานิสงส์นักท่องเที่ยวพื้น แรง หนุนยอดเครื่องดื่มกระฉูด แถมยืนเป้าปี 2566 รายได้โต 6-8% จากปีก่อน รับฐานลูกค้าโตต่อเนื่อง แถมเปิดโรงงานขวด PET ในสุราษฎร์ธานี อัพกำลังผลิตโกยเงินระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) KTMS (Bloomberg consensus – บาท) วางโรดแมป 3 ปี มีเครื่องบริการฟอกเลือดด้วยไตเทียม 500 เครื่อง พร้อมเปิดศูนย์บริการไตเทียม 50 แห่งจากปัจจุบัน 23 แห่งด้านแม่ทัพหญิง”กาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา” ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/2566 ดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนปีนี้คาดรายได้ชน 550 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(0) MAKRO (Bloomberg consensus 44.25 บาท) เล็งเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)” และคาดว่า วันที่ 21 มิถุนายนนี้เริ่มเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์เป็น “CPAXT” โดยยังคงใช้แบรนด์ห้าง “แม็คโคร” และ “โลตัส” เช่นเดิม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PR9 (Bloomberg consensus 22.00 บาท) มั่นใจผลงานฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 เป็นต้น ไป หลังคนใช้ OPD, IPD เร่งตัวชัดจน ชูจุดแข็งศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง 28 ศูนย์ เดินหน้าขยายฐานผู้ป่วยเข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งยังเตรียมยกระดับศูนย์รักษาโรคไตขึ้นระดับสากล หลังระบบ 9CARE Shop เสร็จสมบูรณ์ พร้อมสนับสนุนการติดตามผลและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด หนุนสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศแตะ 20% ตามแผน 5 ปี (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
- สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
- 30 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 13 ก.ค. กกต.รับรองผลเลือกตั้งวันสุดท้าย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 16 มิ.ย. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.
- สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัย มิชิแกน
- 19 มิ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ยจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
- 20 มิ.ย. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
- สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค.
- 21 มิ.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม
- 22 มิ.ย. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐต่อคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐ
