PRM ประเมินผลงานปี 2566 เข้าเป้า ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศโตดี – ธุรกิจ Offshore Support เริ่มสัญญาใหม่ เผย มองหาโอกาสซื้อเรือเพิ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า 10%
บมจ. พริมา มารีน (PRM) คาดแนวโน้มผลงานตลอดปี 2566 เข้าเป้าตามแผน รับผลดีจากปริมาณการขนส่งน้ำมันภายในประเทศเติบโต หลังภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวแรง แนวโน้มขนส่งน้ำมันคึกคัก ขณะที่ธุรกิจ Offshore Support เรือ AWB เริ่มเข้างานตามสัญญาฉบับใหม่ในไตรมาส 2/66 ฟากผู้บริหาร “วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์” มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เผยอยู่ระหว่างมองหาโอกาสซื้อเรือลำใหม่ เพื่อรองรับธุรกิจเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติม
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่าบริษัทฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานตลอดปี2566 คาดว่าผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากที่ไตรมาส 1/2566 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 42.5% ทั้งธุรกิจเรือขนส่งในประเทศซึ่งได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และมีปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นตามการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นในช่วงวันหยุดยาว และธุรกิจ Offshore Support จากการที่เรือ AWB หรือเรือโรงแรมลอยน้ำในกลุ่มนี้ได้เริ่มเข้างานภายใต้สัญญาฉบับใหม่ ในขณะที่ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ ยังคงสามารถรักษาระดับการใช้งานเรือให้อยู่ในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากสัญญาณภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังได้รับผลดีจากธุรกิจเรือขนส่งฯ ระหว่างประเทศที่จะรับรู้รายได้เต็มปีหลังจากที่เรือ VLCC ลำที่ 2 และ 3 ในกลุ่มนี้เริ่มทำงานในเดือนมิถุนายน และกันยายน 2565 ตามลำดับ ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อการดำเนินงานของ PRM ในทุกกลุ่มธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
“บริษัทฯ กำลังมองหาโอกาสใหม่ในการซื้อเรือลำใหม่ เพื่อรองรับธุรกิจการสนับสนุนการสำรวจและผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งและธุรกิจเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติมอยู่ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดในมือทั้งกลุ่มประมาณ 3 พันล้านบาท ที่พร้อมขยายการลงทุนได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับจังหวะราคาเรือและเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อการลงทุนให้คุ้มค่าที่สุด”
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,100.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.5% เมื่อเทียบจากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 1,474.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 613.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.9% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1/2565 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 302.20 ล้านบาท