TBN เดินหน้านำ Low-Code มุ่งสู่ New S-Curve แย้มปัจจุบันดีมานด์พุ่ง เกาะเมกะเทรนด์ด้านดิจิทัล
“บมจ.ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN)” ผู้นำ Low-Code Development Platform และบริการตอบโจทย์ลูกค้าในยุค Digital Transformation พร้อมลุยสร้าง S-Curve ให้ธุรกิจ ก้าวสู่ผู้นำในการพัฒนาและให้บริการด้าน Digital Solutions ที่ใช้เทคโนโลยี Low-Codeเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งได้รับการยอมรับสูงสุดในเอเชีย และสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เผยความสำเร็จหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ นำเงินระดมทุนต่อยอด ขยายทีม – ขยายฐานลูกค้า แย้มปัจจุบันงานในมือแน่น เทรนด์ดิจิทัลหนุนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์พุ่ง
TBN หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง เข้าซื้อขายใน mai เปิดเทรดวันแรกที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 10.50 บาท หรือ 61.76% จากราคา IPO 17 บาท ปิดเทรดวันแเรกที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 25.50 บาท หรือ 150% ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า 2,635 ล้านบาท
นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN กล่าวว่า เราภูมิใจที่ได้นำเทคโนโลยีเข้าไปสนับสนุนลูกค้าองค์กรให้สามารถสร้างแผนการเติบโตและต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และเทคโนโลยีของเราเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยสร้างสรรค์เศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ทำให้ TBN ได้รับความไว้วางใจ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่องมากกว่า 15 ปี และต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นหุ้น TBN ที่ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่จะสนับสนุน TBN สามารถสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดดในอนาคต
ภายหลังการระดมทุน บริษัทฯจะเดินหน้าขยายทีมงานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับงานโครงการประเภทงานพัฒนาระบบ (Digital Solution Services) ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในอนาคตจากการที่หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในองค์กรมากขึ้น บริษัทฯจึงได้จัดตั้งแผนก TBN MENDIX Academy เพื่อการบริหารธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว โดยตั้งเป้าสร้างบุคลากรเพิ่ม 1,000 คน ภายในปี 2569 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจ
TBN ถือเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม Low-Code ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชั่นมีความรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม 6-10 เท่า โดยไม่ต้องอาศัย Software Developer จำนวนมาก ทำให้เกิดผลลัพท์ทางธุรกิจสูงขึ้น จึงเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ แต่ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาด โดยปัจจุบัน TBN มีลูกค้าทั้งกลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน ค้าปลีก อุตสาหกรรมโรงงาน และภาครัฐ เป็นต้น
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TBN มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ถือเป็น Big Player ในวงการไอทีของไทยมานานกว่า 15 ปี มีทีมผู้บริหาร และพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของไทย และเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน รวมทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้ซอฟต์แวร์ Low-Code Development Platform (LCDP) โดยเป็นตัวแทนจำหน่าย MENDIX License รายแรกและปัจจุบันเป็นรายเดียวในประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจาก Siemens ให้เป็นผู้จัดจำหน่าย MENDIX License อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2551 และได้ต่อสัญญาต่อเนื่องทุกปี สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของบริษัทฯ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรในระดับสากล ตลอดจนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านสองแกนนำการจัดจำหน่าย นายธีรฉัตร ศิลปสนธยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด กล่าวถึง ความน่าสนใจของผลการดำเนินงาน TBN มี Recurring Income อยู่ในสัดส่วนระดับสูงราว 50% ล่าสุดผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2566 มีรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ อยู่ที่ 116.83 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นจากการให้บริการ 49.22 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 42.13% และมีกำไรสุทธิ 25.98 ล้านบาท
ขณะที่ นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปิดท้ายถึง เงินระดมทุนจะสนับสนุนให้ TBN ขยายทีมพัฒนา และการขยายไปยังฐานลูกค้ารายใหม่ๆ โดยมองว่า TBN จะเป็นอีกหุ้นเทคโนโลยีที่มีโอกาสเติบโตสูงจากการขยายตลาด Low-Code Platform สร้างความเชื่อมั่น และอยู่ในใจของนักลงทุนในระยะยาวได้