ยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ แม้มีการรับรองส.ส.แต่ไม่มีนัยยะมาก
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ปิดทำการเนื่องในวัน Juneteenth ด้านตลาดหุ้น EU ส่วนมากแล้วก็ปรับตัวลง โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนรอดูแถลงของประธาน FED ต่อรัฐสภา
Market Outlook
ภาพรวมค่อนข้างทรงตัวจากวันหยุดของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งผลให้ไม่มีปัจจัยใดๆ ทั้งการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์และตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ประกอบกับนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูการแถลงของประธาน FED ต่อรัฐสภาที่มีกำหนดแถลงในวันพุธราว 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นความเห็นต่อทิศทางดอกเบี้ยของ FED สำหรับการประชุมเดือน ก.ค. จาก CME FED Watch พบว่าให้น้ำหนักราว 74.4% ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ดังนั้นก็เชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงต่อทิศทางดอกเบี้ย หากส่งสัญญาณผ่อนคลายมากกว่านักลงทุน ประเมินก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น โดยคืนนี้รอติดตามตัวเลขใบขออนุญาตก่อสร้าง และยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.42 ล้านใบอนุญาต และ 1.4 ล้านหลังคาเรือน หากรายงานในทิศทางแย่กว่าตลาดประเมินมองเป็นบวกกับตลาดหุ้นจากการคลายกังวลดอกเบี้ย ส่วนในประเทศแม้จะมีการประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบ 500 คน แบ่งออกเป็น ส.ส. แบ่งเขต 400 คน และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน แต่ปัจจัยดังกล่าวมิใช่ปัจจัยที่เหนือกว่าตลาดคาดหมาย โดยเชื่อว่าปัจจัยที่ตลาดให้ความสำคัญได้แก่การจัดตั้งรัฐบาลรวมถึงพรรคก้าวไกล จะได้การโหวดจาก ส.ว. หรือไม่ หากปัจจัยข้างต้นคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นก็จะเป็น บวกกับตลาดหุ้นพร้อมกับ เชื่อว่ามูลค่าการซื้อขายก็จะเริ่มกลับมา
สำหรับทิศทาง SET เชื่อว่ายังไปไหนได้ไม่ไกลจากการที่ขาดปัจจัยใหม่ๆ รวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติที่เป็นลบ โดยขายสุทธิติดต่อกันมาแล้วราว 4 วันทำการ นอกจากนี้ ด้วยค่าเงินบาทที่ส่งสัญญาณอ่อนแอจะเป็นปัจจัยกดดันต่อกระแสเงินทุนต่างชาติแม้ ช่วงที่ผ่านมาค่าเงิน Dollar จะอ่อนค่าลงแต่พบว่าเงินบาทกลับไม่แข็งค่า วันนี้ประเมิน SET INDEX อ่อนตัวลงในกรอบ 1547 – 1557 ภาพรวมไร้ปัจจัยใหม่ ประกอบกับตลาดหุ้น Nikkei ที่ปรับลงจะเป็นปัจจัยกดดันเชิงจิตวิทยา เชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำทยอยลดพอร์ตการลงทุนจากการที่ตลาดหุ้นปรับขึ้นมารับปัจจัยบวก ด้านคลี่คลายดอกเบี้ยไปพอสมควรแล้ว และหลังจากนี้เสี่ยงเผชิญกับการอ่อนแอ ของเศรษฐกิจโลก หุ้นแนะนำระยะสั้นเน้นที่ Domestic & Defensive อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) โรงพยาบาล (BDMS) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
MAJOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท) หนังที่เข้าฉายในไตรมาส 2/23 มีภาพรวมที่น่าดึงดูดกว่าตารางในไตรมาส 1/23 เริ่มด้วย Guardians of the Galaxy Vol. 3 ที่โกยเงินไปแล้ว 95 ล้านบาททั่วประเทศหลังเข้าฉายเพียง 5 วัน นับว่าทำเงินเร็วกว่า John Wick 4 ที่เป็นหนังทำเงินมากสุดในไตรมาส 1/23 หลังโกยรายได้ทั่วประเทศที่ 200 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาฉาย นอกจากนี้ยังมีหนังทำเงินภาคต่ออย่าง FAST X และ Transformers: Rise of the Beasts ที่คาดว่าจะทำเงินได้มากกว่าภาคก่อน
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 122.00 บาท) มองว่าการจับมือกับ KakaoBank มีความน่าสนใจที่ KakaoBank เป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินจากประเทศเกาหลีที่ให้บริการธนาคารดิจิตอลเต็มรูปแบบผ่าน Mobile App ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเกาหลี และใช้ เวลาเพียง 4 ปี ก่อนจะกลายเป็นธนาคารดิจิตอลที่สุดในเกาหลี ทำให้ทาง SCB สามารถนำประสบการณ์และความสำเร็จของ KakaoBank มาปรับใช้กับตลาดการเงินในไทย