สีเดลต้า (DPAINT) บุกตลาดเคมีภัณฑ์ก่อสร้างเต็มตัว ชูกลยุทธ์ให้คุณมากกว่า “สี”
- ปีนี้ ออกสินค้าใหม่กว่า 30 ผลิตภัณฑ์ รองรับงานก่อสร้างทุกมิติ ขยายฐานธุรกิจครบวงจร
- ตอกย้ำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีแผนธุรกรรมใดๆ กับ STARK ขอให้ผู้ถือหุ้นสบายใจได้
บมจ.สีเดลต้า (DPAINT) รุกตลาดเคมีภัณฑ์ก่อสร้างอย่างเต็มตัว ออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้เปิดตัว 30 ผลิตภัณฑ์ การันตีคุณภาพด้านงานก่อสร้าง ชูศักยภาพผู้ผลิตสีทาอาคารและเคมีภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการต่อลูกค้าทุกกลุ่มพร้อมผนึกพันธมิตร ผลักดันธุรกิจขยายตัวเต็มรูปแบบ ตอกย้ำ บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ STARK ขอให้ผู้ถือหุ้นสบายใจได้ และพื้นฐานธุรกิจกำลังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และจะเติบโตอย่างมั่นคง
นายมงคล ตั้งใจพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ. สีเดลต้า หรือ “DPAINT” กล่าวว่า “ DPAINT ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสีแห่งนวัตกรรม และ เคมีก่อสร้าง แบบครบวงจร จากเดิมมุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์สีเพียงอย่างเดียว ซึ่งโดยในปีนี้บริษัทฯได้เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเคมีก่อสร้างแล้วมากกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ โดยตั้งเป้าจะเปิดตัวเพิ่มให้ครบ 30 ผลิตภัณฑ์ในปีนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งช่างสี ช่างก่อสร้าง ลูกค้าโครงการ และ เจ้าของบ้าน ได้อย่างครบถ้วน โดยตลาดเคมีก่อสร้างมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 17,000 ล้านบาท และ มีอัตราการเติบโตสูงประมาณ 20-30% ต่อปี ซึ่งตลาดขยายตัวได้อัตราที่สูงกว่าตลาดสีทาอาคารที่คาดว่าเติบโตประมาณปีละ 3-5% แต่มีมูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่าคือประมาณ 30,000 ล้านบาท
“การที่ DPAINT ขยายเข้าสู่ตลาด เคมีก่อสร้าง เพื่อขยายธุรกิจให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น และมีโอกาสที่จะสร้างผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยกลุ่มเคมีก่อสร้าง มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง และ สามารถเติบโตไปกับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้าเจ้าของโครงการและ กลุ่มช่างได้อย่างตรงจุด ยิ่งกว่านั้น DPAINT เห็นโอกาสการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการแนวราบและโครงการอาคารสูง ที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจสี เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ตลอดจนโอกาสจากธุรกิจฮาร์ดแวร์ที่ยังมีโอกาสการเติบโตได้อีกมาก”
ในปี 2566 นี้ บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม สีและเคมีภัณฑ์ประมาณ 30 รายการ ที่จับกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียม เจาะกลุ่มตลาดผู้รับเหมา และช่างสี เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น นั่นคือ 1.DELTA GRYPTO 5 IN 1 เป็นสีน้ำมันเคลือบผสมรองพื้นกันสนิม สำหรับทาพื้นผิวเหล็ก 2.DELTA WATERPROOFING SOLUTIONS ซึ่งเป็นกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง อาทิ 2.1 DELTA ROOFSEAL UV BLOCK เป็นผลิตภัณฑ์ทาทับกันซึม ทนต่อแสงแดด รังสียูวี และสามารถผสมในเครื่องผสมสีเดลต้าเดิมได้มากกว่า 26 เฉดสี ซึ่งเป็นรายแรกในประเทศไทยที่สามารถเลือกเฉดสีผสมได้ 2.2 DELTA HYBRID/PU SEALANT ยาแนวรอยต่อปิดรอยแตกร้าวของผนัง 2.3 DELTA NON-SHRINK GROUT ปูนสำเร็จรูปชนิดไม่หดตัว ทนต่อแรงสั่นสะเทือน 2.4 DELTA SKIMCOAT ปูนฉาบชนิดเนื้อบางปิดรอยแตกร้าวของผนัง 2.5 DELTA CEMENT WATERPROOF FLEX ปูนซีเมนต์ชนิดใช้ทากันซึม 2.6 DELTA SELF-LEVELING ปูนชนิดปรับระดับด้วยตนเอง ช่วยปรับระดับพื้นให้เรียบเนียน 2.7 DELTA WALL PUTTY ปูนฉาบผนังชนิดแห้งไว ยึดเกาะได้ดี ปลอดภัยไร้สารอันตราย และล่าสุด ได้ออกผลิตภัณฑ์กลุ่มเคมีภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ได้แก่ 1.DELTA GLASS FIBER MESH ตาข่ายไฟเบอร์ที่เสริมความแข็งแรงให้กับรอยต่อ และรอยแตกร้าว ได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มการปกป้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2. DELTA FLEX SHIELD UV ซีเมนต์ทากันซึมชนิดยืดหยุ่น (ชนิดส่วนผสมเดียว) 3. DELTA DECORPLAST 101 อะคริลิคชนิดพิเศษ ใช้ผสมยิปซั่มหรือซีเมนต์ เพื่องานฉาบผิวบางเบา อีกทั้ง ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ทินเนอร์ อาทิ DELTA THINNER AAA เกรดทั่วไป และ DELTA น้ำมันสน
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเคมีก่อสร้าง สามารถรองรับการเติบโตของการลงทุนด้านอุตสาหกรรมของประเทศ ที่มีกลุ่มทุนต่างๆ การเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่ผ่านมาพบว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาสร้างโรงงานในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายการเข้าไปจับลูกค้าใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Home Use,งานฐานราก และการซ่อมเเซม ล่าสุดบริษัทเตรียมใช้งบลงทุนกว่า 270 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตกลุ่มสีทาอาคารและเคมีภัณฑ์ ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซึ่งมีพื้นที่กว่า 20 ไร่ “
นายมงคลกล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ DPAINT ยังเร่งขยายธุรกิจหลัก คือ ตลาดสีทาอาคาร ทั้งในประเทศ ในกลุ่มร้านค้าปลีก ทั้งกลุ่มโมเดิร์นเทรด กลุ่มร้านค้าส่งและร้านค้าปลีกทั่วประเทศ โดยสำหรับกลุ่มสีทาอาคาร บริษัทจะมุ่งเน้นไปยังตลาดสีระดับพรีเมียมและระดับกลาง จากปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมครอบคลุมทั้ง Premium Quality Grade, High Quality Grade และEconomy Quality Grade และบริษัทยังมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งใน Modern Trade/ Big Box, Modern Retail Shop, Traditional Trade, Online Market และ Projects ขณะเดียวกันก็เตรียมขยายตลาดไปในประเทศกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะกัมพูชา และลาว ผ่านการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดตั้ง Distribution คาดว่าจะช่วยผลักดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันอยู่ประมาณ 5%
ขณะเดียวกัน บริษัทมีนโยบายสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการลงทุนหรือร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมจะเติบโตไปพร้อมกัน โดยบริษัทฯได้อนุมัติการลงทุนใน บริษัทโฮมเพ้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายศูนย์จำหน่ายสีทาอาคารชั้นนำของไทย มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าถือหุ้นในอัตรา 15% โดยบริษัทได้ศึกษาวิเคราะห์สถานะ พร้อมประเมินมูลค่าบริษัท โฮมเพ้นท์ ด้วยการลดกระแสเงินสดเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งบริษัท โฮมเพ้นท์ มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯเติบโตอย่างยืน นอกจากนี้ DPAINT ยังได้ศึกษาการลงทุนในโครงการและธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ”
ตามที่มีผู้ลงทุนสอบถามมาที่บริษัทฯ เกี่ยวกับกรณีของความเกี่ยวข้องกับ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับ STARK ทั้งในด้านการลงทุน การถือหุ้น หรือในการร่วมบริหารงานใดๆ และ/หรือไม่มีกรรมการ ผู้บริหารร่วมกันแต่อย่างใด
ทั้งนี้บริษัทฯ ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้จัดให้มีระบบควบคุมภายในอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการของบริษัทฯ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของกฎหมาย โดยคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ ได้กำกับดูแลกระบวนการตรวจสอบภายในอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ