วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,517 / 1,507 แนวต้าน 1,527 / 1,533 FED ยังตึง ประกาศขึ้นดอกเบี้ยต่อ สอดคล้องกับผลการประชุม FOMC ที่ผ่านมา แต่น้ำมันเริ่มฟื้นได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

Our View? “ตึงตามคาดแต่รับไปบ้างแล้ว”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,517/1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,527 / 1,533 คาดตลาดอาจได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังจากคุณเจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แถลงมุมมองเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อคืนนี้เป็นไปตามที่เราคาด และสอดคล้องกับถ้อยแถลงของ FED ในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง จากการที่เงินเฟ้อยังไม่ปรับลงสู่กรอบเป้าหมายแม้จะชะลอตัวลงบ้างแล้วก็ตาม โดย FED จะให้น้ำหนักกับข้อมูลที่ได้รับในปัจจุบัน ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างเล็กน้อย

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. ฟื้นตัวขึ้นปิดที่ระดับ 72.53 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.34 ดอลลาร์ (+1.88%) ได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในจีนฟื้นตัวขึ้น ตามแนวโน้มการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมันดิบได้ในระยะถัดไป และเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ปิโตรเคมี (PTTGC และ IVL), ค่าการกลั่น (TOP และ SPRC) ในระยะถัดไป

สําหรับปัจจัยภายในประเทศเราแนะนำติดตามการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลในสัปดาห์หน้า คาดจะเห็นความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส. ทั้งหมดแล้ว คาดจะมีการเปิดประชุมสภาฯ ไม่เกินวันที่ 4 ก.ค. และจะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรีต่อไป  อย่างไรก็ตาม เรามองการเมืองไทยยังคงมีความไม่แน่นอนจากกกต. หรือ พรรคฝ่ายค้านอาจยื่นเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีการถือหุ้นสื่อของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คาดยังเป็นปัจจัย Overhang จำกัด Upside ของตลาดได้บ้าง

อีกทั้ง วันนี้เราแนะนำติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้น DELTA หลังจาก ตลท. ประกาศให้เข้าสู่มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 (Cash Balance LV.1) ใน วันที่ 20 มิ.ย. – 10 ก.ค. ส่งผลให้ DELTA มีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถนำมาคำนวณเกณฑ์การอยู่ในดัชนี SET50 Index มีความเสี่ยงมากขึ้น และคาดจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดได้เช่นกัน ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, และ BBL) ปรับตัวขึ้นได้จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อ  ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยว รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3.) หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากทิศทางราคาอาหารยังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ รวมทั้งตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นได้

ธีมการลงทุน “SelectivePlay”

หุ้นแนะนำวันน้ี “BBL”

  • คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการเข้าสู่ช่วง Preview ผลประกอบการ 2Q’66 ที่คาดกำไร ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
  • ทางเทคนิคใน ราคาแกว่งในกรอบ Sideway Up ยกจุดต่ำสุดใหม่สูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อม MACD และ SSTO เริ่มวกตัวขึ้น
  • กลยุทธ์ ซื้อเล่นสั้น แนวรับ 162.00 / 161.00 Target 166.50 / 170.00 Stop <159.50

 

- Advertisement -