ความกังวลในวันเหงาๆ / 1,510-1,530

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET แกว่งตัว Sideways to sideways down: แรงกดดันหลักมาจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังนายพาวเวลเผยว่าเฟดยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%  และเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่วันนี้จับตานายพาวเวลแถลงต่อวุฒิสภา เพื่อหาสัญญาบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติม กอปรกับติดตามการประชุม BoE ในวันนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% หลังอังกฤษได้เปิดเผยเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และไม่มีสัญญาณการชะลอตัว ซึ่งอาจกดดันให้ BoE ยังคงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกนาน นอกจากนี้ SET Index ยังมีแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งแรงกดดันทางจิตวิทยา ซึ่งอาจเป็น Sentiment ทางลบต่อหุ้นขนาดกลางและเล็กได้ ด้านความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์คาดเป็นแรงกดดันต่อ SET Index เช่นกัน หลังโจ ไบเดน ได้กล่าวปราศรัยพาดพิงสี จิ้นผิง โดยใช้คำว่าเผด็จการ ส่งผลให้รัฐบาลจีนออกมาแสดงความไม่พอใจ เป็นการสะท้อนภาพความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ยังไม่มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นอย่างไรก็ดี ประเด็นดังกล่าวคาดเป็นปัจจัยหนุนต่อการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน และจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มนิคมฯ ขณะที่ทางลงของ SET Index คาดถูกจํากัดด้วยแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้น 2.88% สู่ระดับ $72.53 บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการแสดงมุมมองศก.เชิงบวกของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน อย่างไรก็ตาม Volume การซื้อขายในวันนี้คาดเบาบางลงจากจีนปิดทำการในวันที่ 22-23 มิ.ย.
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) ดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL, KTB, TIPH 2) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, AP, BTG, ERW, MINT 3) ราคาพลังงาน/BDI ดีดขึ้น: BANPU, BCP, PSL 4) นิคมฯ: AMATA, WHA และ 5) Window Dressing: BEM, CRC, LH, PTTGC, SCGP

ปัจจัยบวก

  • ก.การท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าในสัปดาห์หน้า จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจะมียอดสะสมเกิน 12 ล้านคน สูงสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 63
  • ชินหัวรายงานข้อมูลของ PBOC เผยว่าปริมาณการชำระเงินแบบไร้เงินสดผ่านธนาคารต่างๆ ของจีนขยายตัวใน 1Q66 แตะ 1,277.53 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 11.1%y-y
  • The Business Times รายงานว่าสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ในภูมิภาครายงานว่ายอดขาย EV ในสหภาพยุโรปพุ่งขึ้น 71% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถใหม่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 โดยเพิ่มขึ้น 18.5%

ปัจจัยลบ

  • รอยเตอร์เผยว่า Ifo ระบุว่าศก.เยอรมันจะหดตัวมากกว่าคาด โดยคาดว่าจะลดลง 0.4% ในปี 66 มากกว่าที่คาดไว้ 0.1% ในเดือนมี.ค. จากเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อการบริโภค
  • อังกฤษเผย Headline CPI เดือนพ.ค. ขยายตัว 8.7% y-y เท่ากับ ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 8.4% yyขณะที่ Core CPI ปรับตัวขึ้นสู่ 7.1%y-y จาก 6.8% ในเดือนเม.ย.
  • ETRI (หน่วยงานในเครือของ CNPC) คาดอุปสงค์น้ำมันดิบในจีนจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% สู่ 740 ล้านตันในปี 66 ซึ่งน้อยกว่าที่มีการคาดไว้ในเดือนมี.ค.ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 4.5%
  • สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำาบาตร 2 ธนาคารของพม่า ซึ่งเป็นการยกระดับ Sanction ทําให้บริษัทต่างชาติทำธุรกรรมได้ยากขึ้น คาดเป็น Sentiment ทางลบต่อธุรกิจที่มีการประกอบกิจการใน/เกี่ยวเนื่องกับพม่า

PICKS OF THE DAY

BCP BUY
  • เป้าหมาย 37.00/39.00 แนวรับ 34.50/35.00
  • ค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น w-w: สิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดย SG GRM ปรับตัวมาที่ 5.5 ดอลลาร์/bbl เพิ่มขึ้นจาก 4.4 ดอลลาร์/bbl ในสัปดาห์ก่อนหน้า ช่วยหนุนธุรกิจโรงกลั่น
  • ค่าการตลาดอยู่ในระดับสูง และเงินกองทุนติดลบน้อยลง: ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลและเบนซิน เดือนเม.ย.- พ.ค. เฉลี่ยประมาณ 2.5 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.1 บาท/ลิตร จากไตรมาสแรก ด้านเงินกองทุนน้ำมันส่วนของน้ำมัน ณ 18 มิ.ย. ติดลบน้อยลงเหลือ 14,077 ลบ. คาดว่าเงินกองทุนส่วนของน้ำมันจะเป็นบวกได้ภายในเดือนก.ค. ช่วยลดโอกาสที่จะมีการเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง
BTG BUY
  • เป้าหมาย 30.00/31.50 แนวรับ 27.00/27.75
  • อาหารยังมีปัจจัยหนุน: ท่ามกลางความหวังของในการรอการจัดตั้งรัฐบาลที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย และกฏเกณฑ์ต่างๆที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น ยังมีบางอุตฯที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย คืออุตฯอาหาร ที่ยังได้ปัจจัยบวกจากการเข้ามาของต่างชาติที่เพิ่มขึ้นที่จะช่วยส่งเสริมการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น
  • BTG ขายในประเทศเยอะ: สัปดาห์ที่ผ่านมา ประกาศราคาหมู 76 บาท/กก. ทรงตัวหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้า, BTG ถือเป็นผู้ผลิตอาหารประเภทสัตว์บก เบอร์ 2 ของประเทศ รองจาก CPF แต่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศสูงกว่าถึง 83% ของรายได้ ทำให้เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดฯในช่วงนี้
- Advertisement -