บล.บัวหลวง:
Interlink Telecom (ITEL TB/ITEL.BK) “กรุงโรมไม่ได้สร้างแค่วันเดียว”
ในวันที่ 27 มิ.ย. เราจะจัดงาน Thai Corporate Day ผ่านทางออนไลน์ โดยทางผู้บริหารของ ITEL คุณณัฐนัย อนันตรัมพร จะเข้าร่วมให้ภาพแนวโน้มของบริษัทในงานนี้ เช่น โครงการใหม่ๆ และรายได้ประจําจาก data center
พื้นฐานแข็งแกร่ง
ITEL มีแผนที่จะสานต่อความสําเร็จจากโครงการก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์สแกนนิ้วของสถานีตำรวจ เฟส 1 เสร็จแล้ว-การติดตั้งทั้งหมด 141 แห่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นราว 35% (ปกติโครงการของ ITEL จะมีอัตรากำไรขั้นต้นในกรอบ 16-18%) สําหรับเฟส 2 ที่มี 1,414 แห่ง (จะเปิดประมูลในเดือน ต.ค.) และมูลค่ารวมอยู่ที่ 298 ล้านบาท (แชร์กับคู่ค้า) ITEL จะติดตั้งระบบ 4G และ 5G จำนวน 1,500 แห่ง (ระยะเวลาการติดตั้ง 4 ถึง 6 เดือน) โดยโครงการนี้รวมสัญญาบริการบำรุงรักษา 1 ปี สําหรับบริษัทโทรคมนาคม นอกจากนี้บริษัทยังมีการพูดคุยอย่างต่อเนื่องสำหรับการติดตั้งโซลาเซลล์ขนาด 6-8 พันพาเนล และล่าสุดบริษัทได้ต่อสัญญาเคเบิลใย แก้วนําแสง PMCM (การบำรุงรักษามูลค่ารวม 125 ล้านบาท) เพิ่มอีก 3 ปี
การเปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัล – โครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์
ทางผู้บริหารมีแผนที่จะขยาย data center ผ่านการร่วมมือกับ ETIX โดยในปัจจุบัน เฟส 1 (0.6 เมกะวัตต์) ให้บริการเต็มแล้ว และเฟส 2 (0.6 เมกะวัตต์) ใช้ไปแล้ว 60-70% โดย ITEL คาดว่าจะปิดดีลกับลูกค้าไอทีชาวญี่ปุ่นเพื่อจองเฟส 2 จนเต็ม และวางแผนพัฒนาเฟส 3 (1.5 เมกะวัตต์) ในครึ่งหลังของ ปี 2566 เพื่อรองรับลูกค้าไฮเปอร์สเกลเลอร์จากต่างประเทศ เมื่อใช้งานจนเต็ม (เฟส 4) data center จะสร้างรายได้ทั้งปีที่ 200-300 ล้านบาท (กำไร 30-45 ล้านบาท) นอกจากนี้ data center แห่งต่อไปที่ร่วมมือกับ ETIX ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) จาก 1.7-1.8 (ค่าเฉลี่ยของประเทศไทย) มาเหลือ 1.3 โดยการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ITEL คาดว่าอุปสงค์ต่อ data center จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการมี data center ที่พร้อมใช้งาน จะหนุนให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจจองได้ง่ายขึ้น
ความเสี่ยงจากภาพที่ไม่แน่นอนของรัฐบาลชุดใหม่
พรรคการเมืองหลักสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างชัดเจน ดังนั้น ITEL เชื่อว่าโครงการของหน่วยงานของรัฐในอนาคตจะมุ่งเน้นไปที่จำเป็นต่อหน่วยงานต่างๆ เช่น เครือข่ายมือถือ 4G/5G ที่ครอบคลุมในพื้นที่ชายแดน หลักสูตรออนไลน์ การแพทย์ทางไกล บล็อกเชน big data ความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดรนเพื่อการเกษตร และอื่นๆ ซึ่งสัดส่วนรายได้ของบริษัทค่อนข้างสมดุล โดยงานภาคเอกชนะหน่วยงานของรัฐอยู่ที่ 60:40 ดังนั้นแม้ว่าการ ประมูลของหน่วยงานของรัฐจะถูกเลื่อนออกไป แต่ก็ยังมีรายได้จํานวนมากจากโครงการของภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง (เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร รวมถึง รัฐบาลใหม่) ทำให้งานประมูล USO-TOT ครั้งต่อไปล่าช้าออกไป ดังนั้นเราจึงยังคงไม่กําหนดราคาเป้าหมายของ ITEL จนกว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากงาน Thai Corporate Day ของเราในวันที่ 27 มิ.ย. นี้