KS Daily View 26.06.2023 >>> สถานการณ์กบฏ Wagner คลี่คลาย คาด SET ฟื้นตัวขึ้น กรอบ SET ซื้อขาย 1,490-1,500/1,520 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ PTTEP BANPU

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA -0.65%, S&P 500 -0.77%, NASDAQ -1.01% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Communication service (-0.25%), Health care (-0.32%), Financial (-0.42%) ส่วน Utilities (-1.51%), Consumer discretionary (-1.10%), Information technology (-1.10%)

ในประเทศ: SET Index -3.79 pts. หรือ -0.25% ปิดที่ 1,505.52 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ DELTA (+1.02%), GULF (+2.30%), TRUE (+2.50%), EA (+1.75%) ตัวฉุดคือ AOT (-1.04%), CRC (-2.58%), CPN (-1.97%), BDMS (-0.88%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดตลาดหุ้นไทยอาจปรับตัวขึ้นได้วันนี้หลังช่วงสุดสัปดาห์สถานการณ์กบฏ Wagner ดูคลี่คลาย หลีกเลี่ยงการนองเลือดได้ เรามองกรอบการซื้อขาย 1490-1500/1520 จุด เชื่อหากยังไม่มีปัจจัยลบใหม่เพิ่มเข้ามามีโอกาสที่ดัชนีจะฟื้นตัวหลังทดสอบแนวรับต่ำสุดเดิมบริเวณ 1490/1500 จุดในสัปดาห์ที่แล้วและมีแรงซื้อช่วยพยุงดัชนีกลับมายืนเหนือ 1,500 จุด

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) กระแสข่าวกบฏ Wagner เคลื่อนพลบุกกรุงมอสโกเป็นประเด็นหลักช่วงสุดสัปดาห์ แต่เพียง 36 ชั่วโมงทุกฝ่ายก็ดูเหมือนสามารถสงบศึกความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในฝั่งกองทัพของรัสเซียได้หลังจากที่ทางประธานาธิบดี Alexander Lukashenko ของเบลารุสได้เข้ามาช่วยเจรจาทำข้อตกลงกับทาง Yevgeny Prigozhin ผู้นำกลุ่ม Wagner ในการคลี่คลายสถานการณ์ แม้ประเด็นสถานการณ์กลุ่มกบฏ Wagner ดูลดระดับลงและหลีกเลี่ยงการนองเลือดได้ แต่สะท้อนสถานการณ์ความไม่แน่นอนภายในฝั่งของรัสเซีย อีกทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งของสงครามรัสเซียและยูเครนอาจเร่งระดับส่งผลให้รัสเซียอาจปฏิเสธต่ออายุข้อตกลง Black sea initiative หรือข้อตกลงการส่งออกธัญพืชในภูมิภาคทะเลดำที่จำเป็นต้องต่ออายุในวันที่ 17 ก.ค. นี้ มิเช่นนั้นแล้วโลกอาจต้องเผชิญกับภาวะปัญหาทางด้านอุปทานและความมั่นคงทางอาหาร อีกทั้งราคาพลังงานที่จะปรับสูงขึ้นโดยเฉพาะในยุโรปหากรัสเซียปิดท่อส่งก๊าสที่ผ่านทางยูเครนไปยุโรปเนื่องจากไม่เปิดการเจรจาต่อสัญญาการจัดหาก๊าซกับยูเครนที่จะสิ้นสุดลงในปี 2024

2.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา ตามความในมาตรา ๑๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กําหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาภายในสิบห้าวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป โดยให้ถือเป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจําปีครั้งที่หนึ่ง อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๒๑ มาตรา ๑๒๒ และมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

3.) หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรับรอง ส.ส.ครบ 500 คน และอยู่ระหว่างการรายงานตัวต่อสภาฯ ตั้งแต่ 20-28 มิ.ย.2566 หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ ที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีคาดขั้นตอนถัดจากการประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา จะต่อด้วยการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 6 ก.ค.2566 จากนั้นประธานสภาฯ ในฐานะประธานรัฐสภา จะเรียกประชุม 2 สภาฯ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค. 2566 และหากทุกอย่างเป็นไปตามคาดเชื่อว่าการแต่งตั้งครม.ใหม่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค. 2566 และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในช่วงปลายเดือน ก.ค

4.) ประเด็นเรื่องภัยแล้งน้ำไม่พอยังคงเป็นอีกประเด็นปัญหาที่ตลาดให้ความสนใจและติดตาม ล่าสุดรองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เผยกรมฝนหลวงได้ดำเนินการทำฝนหลวงให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง โดยสามารถช่วยพื้นที่การเกษตรได้ 150 ล้านไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำที่ทำได้อยู่ประมาณ 320 ล้านลูกบาศก์เมตรแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ยอมรับว่าสถานการณ์ภัยแล้งเกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะที่ จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ภาคอีสาน

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

1.ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงในกรอบ 1,490 – 1,525 จุด ปัจจัยกดดันยังเป็นเรื่องการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่ชัดเจน และปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศที่พลิกเป็นลบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อของธนาคารกลางหลัก

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • PTTEP (ราคาพื้นฐาน 160 บาท) ราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากกำลังการผลิตน้ำมันที่ปรับลดในช่วง 1H23 และ การฟื้นตัวของจีนในครึ่งปีหลัง
  • BANPU (ราคาพื้นฐาน 9.4 บาท) ราคาเชื้อเพลิงให้ความร้อนมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นทั้งก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน เนื่องจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA) ประเมินว่าปรากฎการณ์ El Nino จะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงหน้าหนาวนี้ เกิดภัยแล้งในเอเชีย ทำให้ผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำได้น้อยลง หนุนความต้องการ และราคาก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินซึ่งเป็นพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับสูงขึ้น กอปรกับปัญหาทางธรณีวิทยาของเหมืองถ่านหินของ BANPU ในออสเตรเลียได้ทยอยแก้ไข โดยปริมาณการผลิต ต้นทุนต่อหน่วย และราคาขายได้เริ่มปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 ขณะที่ด้าน valuation เรามองว่าค่อนข้างถูกเนื่องจาก BANPU เทรดที่ PE ต่ำเพียงไม่ถึง 5x, PB ราว 0.6x และให้ dividend yield สูง 5.7%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตามตัวเลขส่งออกของไทยเดือนพ.ค. ตลาดคาดมูลค่าการส่งออกไทยจะปรับตัวลดลงต่อที่ -8.0% YoY (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ -7.6% YoY) เช่นเดียวกันกับตัวเลขนำเข้าที่ตลาดประเมินว่าก็จะปรับตัวลดลง -9.9% YoY (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -7.3% YoY) ต่อด้วยตัวเลขดัชนีภาคอุตสาหกรรมไทย (MPI) ตลาดคาดว่าจะยังคงหดตัวที่ -4.5% YoY (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -8.14% YoY) ช่วงเย็นฝั่งยุโรปมีกำหนดประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ (German ifo business climate) ของเดือนมิ.ย. ตลาดคาดปรับตัวลดลงเหลือ 90.7 (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 91.7)
  • วันอังคาร ติดตามตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ (durable goods order) ของเดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลง -1% MoM (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.1% MoM), ต่อด้วยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB consumer confidence index) ของเดือนมิ.ย. ตลาดคาดจะปรับตัวดีขึ้น 103.7 (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 102.3) และตัวเลขยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ (New home sales) ของเดือนพ.ค. ตลาดคาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 6.76 แสนยูนิต (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.83 แสนยูนิต)
  • วันพุธ ติดตามงานสัมมนาอภิปรายในหัวข้อนโยบายการเงินจัดโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB forum) โดยในงานมีกำหนดให้ประธาน ECB Lagarde และประธาน Fed Powell มีการพูดให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นในการดำเนินนโยบายการเงินต่างๆของธนาคารกลาง
  • วันพฤหัสฯ ติดตามช่วงบ่ายยุโรปมีกำหนดประกาศตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อเบื้องต้นของเยอรมันสำหรับเดือน มิ.ย. (German Prelim CPI) ตลาดคาดเพิ่มขึ้นที่ +0.2% MoM (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.1% MoM) ตัวเลขมีความสำคัญเนื่องจากทิศทางเงินเฟ้อของเยอรมันสะท้อนทิศทางเงินเฟ้อของทั้งยุโรปเนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดและมีผลกระทบมากที่สุดในกลุ่ม ต่อด้วยช่วงข้ามคืนสหรัฐฯมีกำหนดประกาศตัวเลข Final GDP ของไตรมาส 1/2023 เป็นการปรับปรุงตัวเลขครั้งสุดท้ายหลัง (final revision version) หลังประกาศตัวเลขเร็วไปแล้วก่อนหน้า ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ +1.4% (เทียบกับรอบก่อนหน้าที่ +1.3%)
  • วันศุกร์ ติดตามช่วงเช้าติดตามตัวเลขภาคการผลิตจีน (manufacturing PMI) ของเดือนมิ.ย. ตลาดคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 51 (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 48.8) ต่อด้วยแถลงการณ์รายงานภาพรวมเศรษฐกิจของธปท.ในช่วงบ่าย และช่วงข้ามคืนสหรัฐฯมีกำหนดประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ core PCE ของเดือนพ.ค. ตลาดคาดที่ +0.4% MoM (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.4% MoM) ต่อด้วยตัวเลขภาคการผลิตรายรัฐ Chicago PMI ของเดือนมิ.ย. ตลาดคาดที่ 44 (เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 40.4)
- Advertisement -