บล.ฟิลลิป:
KTB: คาดกำไร 2Q66 ทำ New high
ทยอยซื้อ TP’66: 20.50
คาดสินเชื่อที่จะกลับมาเติบโตได้ในไตรมาสนี้ รวมไปถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และทำให้กำไรเติบโตทั้ง y-y และ q-q เป็นระดับกำไร New high แต่ใน 2Q66 NPL ของ KTB อาจจะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สำรองที่มีอยู่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ KTB คงระดับการตั้งสำรองเท่ากับไตรมาสก่อนไว้ได้ กำไรปี 66 ยังเติบโตดี แต่ราคาหุ้นกับราคาพื้นฐาน 20.50 บาท อาจจะเหลือส่วนต่างไม่มาก แต่ยังมีปันผล แนะนำ “ทยอยซื้อ”
งบรวม | 2Q66E | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66E | 6M65 | % y-y |
กําไร | 11,714 | 10,067 | 8,358 | 40.2 | 16.4 | 21,781 | 17,139 | 27.1 |
EPS | 0.84 | 0.72 | 0.60 | 40.2 | 16.4 | 1.56 | 1.23 | 27.1 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 2Q66 มีกำไร 11.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 40.2% y-y และ 16.4% q-q : คาดสินเชื่อกลับมาเติบโตได้ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้คาดว่ากำไรในไตรมาสนี้จะเติบโตได้ 40.2% y-y และ 16.4% q-q เป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่การตั้งสำรองจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน
- สินเชื่อ 2Q66 กลับมาเติบโต และ NPL อาจจะเพิ่มขึ้น: คาดสินเชื่อของ KTB ใน 2Q66 จะกลับมาเติบโตได้ ประมาณ 1.2% q-q หลังจากใน 1Q66 สินเชื่อมีการหดตัวลง 0.4% q-q แต่อย่างไรก็ตาม NPL อาจจะเพิ่ม สูงขึ้นได้จากที่มีอยู่ 3.2% ของสินเชื่อรวม อย่างไรก็ตาม ด้วยสัดส่วนสำรองต่อ NPL ของ KTB ที่มีอยู่ 177% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มแล้ว ทำให้คาดว่า KTB จะยังคงระดับการตั้งสำรองเท่ากับในไตรมาสก่อนไว้ได้
- ส่วนต่างราคาอาจจะไม่มาก แต่ยังมีปันผล แนะนำ “ทยอยซื้อ”: ถึงแม้ทางฝ่ายจะคาดว่า KTB จะมีกำไรปี 66 อยู่ ที่ 41.8 พันลบ. เป็นการเพิ่มขึ้นถึง 24% y-y แต่เมื่อเทียบราคาหุ้นในปัจจุบันกับราคาพื้นฐาน 20.50 บาท อาจจะเหลือส่วนต่างไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม KTB ยังมีปันผลอยู่ โดยคาดว่าปี 66 จะมีการจ่าย 0.84 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 4.3% จึงแนะนำ “ทยอยซื้อ”