วันน้ีคาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,475 / 1,460 แนวต้าน 1,490 / 1,495 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อคืนนี้ออกมาดีกว่าคาดทุกตัว ผ่อนคลายความกังวลในการเกิดเศรษฐกิจถดถอยได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนทางการมืองในประเทศคาดยังถ่วงตลาดได้ต่อ

Our View? “รีบาวด์ได้อย่างจํากัด”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,475 / 1,460 และแนวต้านที่บริเวณ 1,490 / 1,495 เมื่อคืนนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) เดือน พ.ค. ออกมาที่ระดับ +1.7% MoM สวนทางจากที่ตลาดคาดไว้ที่ -0.9% MoM บ่งชี้กิจกรรมการผลิตสหรัฐยังแข็งแกร่ง ขณะที่ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sale) เดือน พ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 7.63 แสนหลังคาหรือ +12.2% MoM มากกว่าที่ตลาดคาด อีกทั้งตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) โดย CB เดือน มิ.ย. ออกมา 109.7 มากกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน สะท้อนความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ คาดจะผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย จากการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)

อย่างไรก็ตาม เรายังแนะนำให้ติดตามถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายท่านรวมถึงนายเจอโรม พาวเวลประธาน FED ถึงแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป โดยเรายังคงคาดว่าเจ้าหน้าที่ FED ส่วนใหญ่คาดจะยังสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อจนกว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย และเราคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไปในระยะเวลาหนึ่ง โดยเรามองเป็นปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และอาจอยู่ในระยะเวลานานกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลให้ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องตามมา และคาดจะเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 4Q’66 คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

อย่างไรก็ดี เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ของจีน คาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่ระดับ 5% และคาด 2Q66 จะทำได้ดีกว่า 1Q66 โดยเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่เราคาดจีนน่าจะมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายทางการคลังเพิ่มเติม มองเป็น จิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 67.70 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.67 ดอลลาร์ (-2.41%) คาดยังคงได้รับแรงกดดันการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งหนุนความสามารถในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ได้ต่อ รวมทั้งคุณคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความคิดเห็นอัตราเงินเฟ้อในยุโรปมีแนวโน้มจะอยู่ในระดับสูงไปยาวนาน ซึ่งทำให้ ECB จําเป็นต้องขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยต่อไป กระตุ้นความกังวลผลกระทบจากการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงของธนาคารกลางที่สำคัญของโลก  คาดจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบลดลง คาดจะกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้ อย่างไรก็ดี เรายังมองราคาน้ำมันดิบยังมีปัจจัยจำกัด Downside จากการปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจของซาอุดิอาระเบียในช่วงเดือน ก.ค. นี้ คาดจะจำกัด Downside ของราคาน้ำมันดิบได้บ้าง

สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค. -4.6% YoY แม้ยังอยู่ในภาพหดตัวและยังอ่อนแอจากเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน กดดันยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ แต่ดีกว่าที่ตลาดคาด -8.0% YoY และดีกว่าเดือน เม.ย. ที่ -7.6% YoY โดยคาดว่า 2Q’66 มีแนวโน้มดี ขึ้น และคาดทั้งปี’66 จะอยู่ที่ระดับ 1-2% โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวในรอบ 8 เดือน ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม อาทิ ข้าว, น้ำตาลทราย, เครื่องดื่ม, ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และผักกระป๋องแปรรูปขยายตัวได้ดี มองอาจเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มอาหารสัตว์ CPF, GFPT และ TFG ได้บ้างเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เราคาดความไม่แน่นอนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล จากความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ คาดจะเป็นปัจจัยสร้างความกังวลต่อแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าออกไปได้ต่อ และเป็นปัจจัยหลักจำกัด Upside การฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยได้อยู่ อย่างไรก็ดี การเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเดือน มิ.ย. คาดจะเริ่มเห็นการ Preview ผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, KBANK และ SCB) ที่คาดกำไร 2Q’66 ยังอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว อีกทั้งคาดยัง หุ้นที่มีความปลอดภัยในการเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing ในรอบปิดงบ 2Q’66 ได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “TACC”

  • คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ 1Q’66 และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q’66 ตามการเติบโตของยอดขายใน 7-11
  • ทางเทคนิค ราคายังอยู่ในภาพขาลง แต่เริ่มเข้าใกล้แนวรับที่กรอบขาลงแล้ว ขณะที่ MACD ชะลอการอ่อนตัวลง พร้อม SSTO พยายามวกตัวขึ้น แนะนำ “สะสมเพื่อเล่นรีบาวด์”
  • กลยุทธ์ สะสมเล่นรีบาวด์ แนวรับ 4.54 / 4.44 Target 4.96 / 5.15 Stop <4.40

- Advertisement -