ดอกเบี้ยเดินหน้า การเมืองไทยอยู่กับที่ / 1,450-1,480
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sicleways: ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.และก.ย.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และความร้อนแรงของตลาดแรงงานในการเสวนาว่าด้วยนโยบายการเงินของธนาคารกลางเมื่อวานนี้ สอดรับกับปธ. ECB ที่กล่าวในงานว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปยังสูงเกินไป และมีแนวโน้มจะสูงเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ ECB ต้องเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ติดตามการเสวนาว่าด้วยเสถียรภาพทางการเงินที่จะจัดขึ้นในวันนี้ ซึ่งอาจมีสัญญาณบ่งชี้เพิ่มเติมด้านการเมืองไทย เป็น Overhang กดดัน SET Index ต่อเนื่อง หลังก.ก.และพท.ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในตำแหน่งปธ.สภา อีกทั้งมีการเลื่อนประชุม 8 พรรคร่วมฯจากวันนี้ไปเป็นวันที่ 2 ก.ค.โดย จะมีการหารือของก.ก.และพท.ในวันเดียวกันก่อนประชุม 8 พรรคร่วมฯ ขณะที่การปรับตัวลง 8 วันติดต่อกันของ SET Index และดัชนีที่ร่วงลงไปแล้วเกือบ 100 จุด ได้กดดันให้ P/E ปรับตัวลงสู่ระดับ 15.84x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 18.05x และเข้าใกล้ -1SD ดังนั้นด้วยระดับ P/E ที่เริ่มมีความน่าจูงใจมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ทางฝ่ายมองว่าจะเริ่มมีแรงซื้อสะสมของนักลงทุนสถาบันและภายในประเทศในหุ้นที่พื้นฐานดี ซึ่งจะเข้ามาเป็นแรงหนุนต่อ SET Index กอปรกับหุ้นในกลุ่มพลังงานที่คาดเป็นอีกแรงหนุนตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้น 2.75% สู่ระดับ $69.56 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 9.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.76 ล้านบาร์เรล ขณะที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของอนุพันธ์ซีรีย์ M อาจส่งผลให้ SET Index มีความผันผวนสูง
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: ADVANC, AOT, BA, BEM, BTS, CPN, MASTER, MINT, SPA 2) ส่งออก: AH, GFPT, KCE 3) ราคาน้ำมันฟื้น: BCP, PTG และ 4) หุ้นพื้นฐานดีน่าสะสม: BCPG, CHG, SPALI
ปัจจัยบวก
- ททท.เผยภาพรวมการท่องเที่ยวว่า 2Q66 ตลาดในประเทศถือว่ายังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง จากประมาณการนักท่องเที่ยวผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยทั้งปีที่ประมาณ 200 ล้านคน/ครั้ง ล่าสุด 1H66 อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านคน/ครั้งแล้ว และโดยคาดว่าปลายปีนี้ไทยเที่ยวไทยจะเกินเป้ารายได้ตลาดในประเทศที่ 8.8 แสนลบ.
- World Bank ปรับเพิ่มคาด GDP ไทยปี 66 เพิ่มเป็น 3.9% จากเดิม 3.6% โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว รวมถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งเกินคาดจากจีนมีส่วนช่วยสนับสนุนด้วย
- แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิด 2Q66 โดย 10 ปีย้อนใน 2Q หลังพบโอกาสเกิด 60% และผลตอบแทนเฉลี่ยของ 2Q ในปีที่เกิดอยู่ที่ระดับ +1.47% ทั้งนี้หุ้นที่ราคา Laggard ใน 2Q66 ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing ได้แก่ PTTGC, SCGP, LH, CRC, BEM
ปัจจัยลบ
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ECB เผยเงินเฟ้อยูโรโซนจะไม่กลับคืนสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ใน 2 ปีนี้ แม้จะมีความคืบหน้าในปีนี้ แต่เงินเฟ้อจะไม่ลงสู่เป้าหมาย 2% ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
- เยอรมนีเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลงสู่ระดับ -25.4 ในช่วงเข้าสู่เดือนก.ค. จากระดับ -24.4 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการคาดการณ์ทางศก.และรายได้ลดต่ำลง
- วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า สหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการใหม่ในการจํากัดการส่งออกชิปไปยังจีน ซึ่งคาดว่าจะเริ่ม ดาเนินการอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค.
- จีนเผยกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 18.8% y-y ในช่วง 5M66 เนี่องจากบริษัทในภาคส่วนนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงท่ามกลางศก.ที่ฟื้นตัวอย่างอ่อนแอหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด
PICKS OF THE DAY
MASTER BUY
- เป้าหมาย 8.55/8.65 แนวรับ 8.20/8.30
- 2Q66 ลุ้นโต q-q จาก U-RATE สูง: นอกจากการเติบโตแบบ Organic รับการกลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงการเปิดเมืองเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วงเดือน มิ.ย. 66 MASTER จะเริ่มเปิดใช้ห้อง OR เพิ่มอีก 10 ห้องจากเดิม 7 ห้อง ซึ่งส่งผลดีต่อการรับลูกค้าเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจ Skin care และ Hair ที่รับลูกค้าได้มากขึ้น หลังแยกส่วนการให้บริการคนละชั้น
- มีลุ้นปิดดีล M&A เพิ่มอีกในปีนี้: หลังเสร็จสิ้นการเข้าลงทุนคลินิกความงาม “WIND CLINIC” ถือหุ้นในสัดส่วน 40% แล้ว ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมปิดดีล M&A เพิ่มทั้งนี้ทางฝ่ายมองเป็นโอกาสขยายธุรกิจไปภูมิภาคภายใต้มาตรฐานการให้บริการของ MASTER
BEM BUY
- เป้าหมาย 80.00/82.00 แนวรับ 76.00/77.00
- 2Q66 คาดกำไรโต y-y, q-q: ผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้ายังฟื้นตัว โดย 2M2Q66 +8.3% และ +64.4% y-y ที่ 1.1 ล้านคัน และ 3.4 แสนคน/วัน กำไรดีขึ้น y-y แต่ชะลอ q-q ตามฤดูกาลปกติจากปิดเทอมและวันหยุดยาว อีกทั้งจะมีเงินปันผลจาก TTW และ CKP ที่ 337 ลบ. กำไรสุทธิจะโตได้ทั้ง y-y, q-
- สายสีเหลือง ช่วยส่งต่อผู้โดยสารรถไฟฟ้า: ครึ่งปีหลังได้ผลดีจากสายสีเหลืองเปิดให้บริการและเก็บเงินเป็นทางการ 3 ก.ค. และทดลองใช้ครบทุกสถานีมีผู้ใช้ช่วง 23-27 มิ.ย. อยู่ที่ 7-8 หมื่นคน/วัน ช่วยส่งต่อผู้โดยสารเข้ามาในระบบของ BEM และโควิดที่คลี่คลาย กิจกรรมการจัดงานต่าง ๆ กลับมาปกติ การเดินทางเพิ่มขึ้น