การเมืองไทยมีความชัดเจนมากขึ้น หนุนตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ต่อ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.8% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารฯ หลังจาก FED ระบุว่าธนาคารขนาดใหญ่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.4% ยังคงได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันที่ลดลงมากกว่าคาด
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯเปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.39 แสนราย ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.64 แสนราย อย่างไรก็ตาม รายงานดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย -2.7%MoM แย่กว่า Bloomberg ประเมินที่ -0.5%MoM นอกจากนี้ยังรายงาน GDP 1Q23 ขยายตัว 2%QoQ ดีกว่าตลาดคาด ที่ 1.4%QoQ ได้แรงหนุนจากการบริโภคที่ขยายตัว 4.2%QoQ จากไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวเพียง 1%QoQ รวมถึงการบริโภคด้านการบริการ (+3.2%QoQ) ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ +1.6%QoQ อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนหดตัวแรง (-12%QoQ) ผลจากการลงทุนในอุปกรณ์ (-9%YoY) ทั้งนี้ภายหลังจากทราบข้อมูล ทั้งหมดพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2, 10 ปี ปรับขึ้นเด่น และ CME FED Watch ปรับเพิ่มโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสิ้นเดือน 7 สู่ระดับ 89% จากวันก่อนหน้าที่เพียง 81.8% สะท้อนว่านักลงทุนกำลังกลับมากังวลกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ย โดยคืนนี้รอติดตาม PCE ของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 3.8%YoY, Core PCE ที่ 4.7%YoY หากรายงานแล้วต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ก็เชื่อว่าจะเป็นบวกกับตลาด
ส่วนในประเทศวานนี้ มีข่าวจากหลายสำนักระบุว่า พรรคเพื่อไทยเปิดเผยประธานสภาจะเป็นของพรรคก้าวไกล และยังยืนยันจับมือกับพรรคก้าวไกล แต่หากหัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่มีพรรคก้าวไกลอยู่ช่วยพรรคเพื่อไทย โดยวันที่ 2 ก.ค. แกนนำทั้ง 8 พรรคจะร่วมกันหารืออีกครั้งก่อนที่จะเข้าวันที่ 6 ก.ค. เพื่อเลือกประธานสภาฯ และ 13 ก.ค. เลือกนายกฯ จากข่าวข้างต้นก็มองเป็นบวกกับตลาดหุ้นจากการคลายกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง สอดคล้องกับนักลงทุนต่างชาติที่เมื่อวานที่กลับมาซื้อสุทธิ 1.1 พันล้านบาทพร้อมกับเปิดสถานะ Long Tfex ราว 1.2 หมื่นสัญญา
วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวขึ้นกรอบ 1480 – 1495 เชิงกลยุทธ์แนะเริ่มสะสมไม้แรกสำหรับนักลงทุนระยะกลาง – ยาว โดยเน้นที่หุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำอุตสาหกรรม (AOT BBL CPALL CRC HMPRO KBANK) ส่วน Trading ระยะสั้นเลือกน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) กลุ่ม Finance (MTC TIDLOR)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท (+50% YoY, +3% QoQ) แม้รายได้ค่าธรรมเนียมจะเบาบาง และคาดถึงกำไรสุทธิจากมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) ที่น้อยลงเพราะตลาดทุนที่ผันผวน แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จาก 1) NII ที่โตขึ้นเพราะ NIM ที่ขยายตัว และ 2) การตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท) ระยะยาวการใช้บริการสนามบินจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ AOT มีแผนการขยายสนามบินเช่นกัน ล่าสุดมีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการขยายสนามบินเพิ่มจากที่เคยประกาศมาก่อนหน้านี้ อย่างอาคาร Satellite terminal-1 : SAT1 (เปิด ก.ย. 23) รันเวย์ที่ 3 เปิดปี 24 และอาคารเทอร์มินอล 3 สนามบินดอนเมือง คือการขยายสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ที่จะเริ่มก่อสร้างในปี 26 ซึ่งจะทำให้ในอีก 8 ปีจาก นี้ AOT จะมีความสามารถรองรับผู้โดยสารรวมได้มากกว่า 200 ล้านคน จากปัจจุบันมี 100 ล้านคน