แรงบวกเริ่มมา แต่แรงลบสู้กลับ / 1,495 -1,510

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาดดัชนี SET เปิดบวกภาคเช้า แต่ลุ้นยืนได้ไหม?: แรงหนุนจาก Sentiment ต่างประเทศ โดยฝั่งสหรัฐปิดบวกจากสัญญาณเงินเฟ้อที่ดูชะลอตัวลง หลังดัชนีใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ค. ลดต่ำกว่าคาดและครั้งก่อนสู่ 3.8% y-y ทําให้นักลงทุนมองแรงกดดันจาก FED ลดลง แม้ว่า Fed Watchtool จะมองโอกาส 84.3% ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของรอบการประชุมเฟดวันที่ 26 ก.ค. จะยังเพิ่มอีก 25 bps แต่มองตลาดเริ่ม Price-in ไปในระดับหนึ่ง และปรับตัวได้ ขณะที่ตลาดกลับไป Focus ที่ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่แข็งแกร่ง ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือน มิ.ย. มากกว่าคาดสู่ 64.4 จุด กอปรกับสี่ธนาคารใหญ่สหรัฐทั้ง JP Morgan, Goalman Sachs และ Morgan Stanley ประกาศเพิ่มเงินปันผล ซึ่งจะช่วยหนุน Sentiment ให้ภาคธนาคารของเอเชียในเช้านี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคลายความกังวลภูมิรัฐศาสตร์ หลัง รมต.คลังสหรัฐฯ จะเยือนจีนในวันที่ 6-9 ก.ค. นี้ แต่ในทางกลับกันจะเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มนิคมฯ ที่เคยบวกจากปัจจัยดังกล่าวมาก่อนนี้ สำหรับปัจจัยในประเทศ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกที่บริษัทจดทะเบียนจะเริ่ม Preview งบการเงินงวด 2Q66 คาดเป็นบวกต่อหุ้นรายตัว นำโดย ADVANC, TU ส่วน PTTEP เป็นเชิงลบ ขณะที่กลุ่มยานยนต์สัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากงาน EV Expo สำหรับการเมืองในประเทศ หลังจากวันอาทิตย์ยังไม่เห็นถึงสัญญาณข้อสรุปเรื่องประธานสภาระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย ทำให้ทางฝ่ายยังมองเป็นปัจจัย Overhang กดดันต่อดัชนีหุ้นไทยจากความไม่แน่นอนในการเลือกประธานสภา วันที่ 4 ก.ค. นี้
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว:AOT, BEM, CPALL, CPAXT, CRC, CPN, ERW 2) การเมืองชัดขึ้น: CK, ITD, SC, SIRI, STEC 4) หุ้น พฐ.ดี+Preview งบฯ: ADVANC, BBL, HANA, SCB 5) SET50/100: SNNP, TLI

ปัจจัยบวก

  • Dealogic คาดการทำธุรกรรม M&A ที่ลดลงทั่วโลกกว่า 36% สู่ 7.33 แสนล้านดอลลาร์ใน 2Q66 จากแรงกดดัน ด้านดอกเบี้ยสูงนั้น ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว มองระยะถัดไปมีโอกาสฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่สูงขึ้น
  • ธปท. เผย พ.ค. ไทยเกินดุลการค้า พ.ค. 55 ล้านดอลลาร์ และมองเศรษฐกิจไทยระยะถัดไปมีโอกาสฟื้นตัวจาก ค่าใช้จ่ายเอกชน, การบริโภค, การลงทุน และค่าใช้จ่ายภาครัฐแนวโน้มระยะถัดไปคาดขยายตัว
  •  กบน.มีมติคงราคาก๊าซ LPG ที่ 423 บาทต่อถัง ต่ออีก 2 เดือน ถึง 31 ส.ค. ซึ่งจะช่วยพยุงค่าครองชีพประชาชน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเบื่อคืนวันศุกร์เป็นเชิงบวก ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. มากกว่าคาดสู่ 64.4 จุด ดัชนี PCE เดือน พ.ค. ตากว่าคาดสู่ 3.8%y-y

ปัจจัยลบ

  • Eurozone เผยดัชนี CPI ประมาณการเดือน มิ.ย. ต่ำกว่าคาดเพียงเล็กน้อยสู่ 5.5% ขณะที่อัตราว่างงานเดือน พ.ค. ยังอยู่ในระดับสูงเท่ากับที่คาดและครั้งก่อนที่ 6.5%
  • สศอ.เผยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) เดือน พ.ค. ของไทยหดตัว 3.14% สู่ 94.8 จุด จากการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า รายได้เกษตรกรที่ลดลง และยังกังวลต่อเอลนีโญที่จะทำให้แนวโน้มปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ
  • การประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องประธานสภา ทำให้มองความไม่ชัดเจนที่ เกิดขึ้น ได้สะท้อนถึงความไม่สมานฉันท์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และอาจกดดันให้กังวลต่อการโหวตประธานสภา ในวันที่ 4 ก.ค. นี้
  • PICKS OF the day. BUY เป้าหมาย 20.00/20.70 Bangkok Bank แนวรับ 18.70/19.00

PICKS OF THE DAY

BBL BUY
  • เป้าหมาย 161.00/165.00 แนวรับ 155.00/158.00
  • คาดกำไร 2Q66 โตเด่น: คาดว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น จะทำให้ BBL มีกำไร 11.5 พันลบ. เติบโตถึง 65.1% y-y เด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร
  • ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และรับความเสี่ยงได้มาก: ด้วยโครงสร้างสินเชื่อและเงินฝาก ทำให้ BBL เป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นมากที่สุด และ BBL เป็นธนาคารที่รับความเสี่ยงได้มาก เนื่องจากมีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงถึง 243% จากค่าเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 171%

CK BUY

  • เป้าหมาย 20.00/20.70 แนวรับ 18.70/19.00
  • บวกรับการเมืองที่ชัดเจนมากขึ้น: ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นรัฐบาล คาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีโอกาสตอบรับบวกจากความชัดเจนทางการเมืองที่มากขึ้น สอดคล้องกับสถิติการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก่อนได้นายก 1 เดือน กลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นกลุ่มที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 6%
  • คาด 2H66 จะมี Backlog เพิ่มขึ้น: ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ที่เริ่มฟื้นตัวจากช่วงโควิด สู่ระดับ 1.5 แสนล้านบาท และหากภายในปีนี้ได้งานสายสีส้มตะวันออก, ทางด่วน Double Deck จะมีโอกาสหนุนให้ปิดสิ้นปีด้วย Backlog แตะระดับ 2.64 แสนล้านบาท
- Advertisement -