บล.บัวหลวง:
Refining & Chemical – ค่าการกลั่นปรับตัวลดลง แต่ส่วนต่างราคา ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (NEUTRAL)
ค่าการกลั่นปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่ปรับลดลง ในขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาที่ปรับลดลง ทั้งนี้เรายังคงชอบ TOP และ IVL มากที่สุด
การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่นให้ปรับตัวลดลง ในทางกลับกันการเปิดประเทศจีนในปัจจุบันจะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์น้ำมันสําเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมทั้งค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี
เรายังคงชอบ TOP มากที่สุดในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากการเป็นผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้กำไรมีความไวต่อการปรับตัวสูงขึ้นของค่าการกลั่น และเรายังคงชอบ IVL มากที่สุดในกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากแนวโน้มกำไรหลักปี 2566 ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีอัพไซต์ต่อแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากการลงทุนและ/หรือการเข้าซื้อกิจการใหม่
ค่าการกลั่นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง WoW
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 0.59 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 3.83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่ปรับตัวลดลง อุปทานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิด ดำเนินการโรงกลั่นหลังการปิดซ่อมบำรุง และการส่งออกจากจีนที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสําคัญที่กดดันส่วนต่างราคาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนปรับตัวลง 0.97 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 15.73 เหรียญสหรัฐ/ บาร์เรล (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ SPRC มากที่สุด) ในขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินและส่วนต่างราคาดีเซลปรับตัวลง 0.69 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 15.00 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 0.26 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 16.62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ TOP มากที่สุด) นอกจากนี้สต็อกในสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคานํ้ามันเตาที่มีส่วนผสมของกำมะถันในระดับสูงปรับตัวลง 0.02 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ ที่ -8.19 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนต่างราคาเอธิลีนและส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น WoW
แรงซื้อในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้นหนุนให้ราคาเอธิลีนและราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น 15 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 735 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 10 เหรียญสหรัฐ WoW อยู่ที่ 720 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวลง 19 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 512 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้ส่วนต่างราคาเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 34 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 223 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น 29 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 208 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ IRPC มากที่สุด)
ส่วนต่างราคา HDPE และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวขึ้น WoW
ต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาที่ลดลง, อุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัว, และอุปทานที่มีจำนวนมาก ส่งผลให้ราคา HDPE และราคา PP ปรับตัวลง 10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 970 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 900 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวลงเร็วกว่าราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ส่วนต่างราคา HDPE เทียบกับแนฟทาปรับตัวขึ้น 9 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 458 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวขึ้น 9 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ IRPC มากที่สุด)
ส่วนต่างราคา MEG และส่วนต่างราคา PVC ปรับตัวลง WoW
อุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัวและอุปทานที่มีจำนวนมาก ส่งผลให้ราคา MEG ปรับตัวลง 15 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 460 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนปรับตัวขึ้น ส่วนต่างราคา MEG จึงปรับตัวลง 24 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ -3 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด) ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่ปรับเพิ่มขึ้นหนุนให้ราคา PVC ทรงตัว WoW อยู่ที่ 780 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนต่างราคา PVC จึงปรับลดลง 8 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 413 เหรียญสหรัฐ/ต้น (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด)
คาดค่าการกลั่นลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 3/66
การเปิดประเทศจีน, การจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น, และอุปสงค์ก๊าซโซลีนที่สูงขึ้นตามฤดูกาลมีแนวโน้มที่จะหนุนอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปในวงกว้างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/66 จากมุมมองด้านอุปทาน ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และระดับสินค้าคงคลังที่ต่ำจะส่งผลให้อุปทานมีจำกัด ต้นทุนน้ำมันดิบ (Crude Premium) มีแนวโน้มทรงตัว QoQ ดังนั้นจากแนวโน้มดังกล่าว เราจึงคาดว่าค่าการกลั่นในไตรมาส 3/66 จะเพิ่มขึ้น QoQ ในด้านของ YoY ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวลง เนื่องจากฐานที่สูงเป็นพิเศษในไตรมาส 3/65
หากการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงกลั่นใหม่ไม่เป็นไปตามแผน หรือมีการหยุดโรงกลั่นโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า (สาเหตุจากไฟไหม้, สงคราม, ภัยธรรมชาติ เป็นต้น) จะส่งผลให้อุปทานตึงตัว อาจเป็นอัพไซต์ต่อค่าการกลั่น นอกจากนี้การเปิดประเทศของจีนจะหนุนอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปและน่าจะส่งผลดีต่อค่าการกลั่น ในทางกลับกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่นให้ปรับตัวลดลง
ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY แต่ทรงตัว QoQ ในไตรมาส 3/66
การเปิดประเทศจีนจะค่อยๆ หนุนการเติบโตของอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยรวมต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/66 แต่อุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่มักจะชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาลจนถึงเดือน ส.ค. และโดยปกติแล้วไตรมาสที่สามจะเป็นช่วงที่อุปสงค์ผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล จากปัจจัยดังกล่าว ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาส 3/66 แต่ทรงตัว QoQ ยกเว้นส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ (โดยเฉพาะ PET) ซึ่งจะลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล
การเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของกำลังการผลิตใหม่อาจกดดันส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ในไตรมาส 3/56 ในด้านของ YoY ทั้งนี้อุปทานที่มีจำกัดซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการควบคุมมลพิษของจีน, ความล่าช้าในการเริ่มดำเนินงานของกำลังการผลิตใหม่ อาจเป็นอัพไซด์ต่อราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี