สามัคคี คือ พลัง / 1,510-1,530
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways up: แรงหนุนสำคัญมาจากความคืบหน้าของการเมืองไทย หลังวานนี้ที่ประชุมสภาฯ มีมติเลือกนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นปธ.สภาฯ โดยไม่มีการลงมติแข่งขัน กอปรกับ 8 พรรคร่วมฯยังไม่แตกแถว สอดรับกับ 312 เสียงที่ลงคะแนนให้ นายปฏิพัทธ์ สันติภาดา จากพรรคก้าวไกล นั่งตำแหน่งรองปธ.สภาคนที่ 1 เป็นการสะท้อนความเป็นเอกภาพของ 8 พรรคร่วมฯ ซึ่งช่วยลดภาพความไม่แน่นอนของการเมืองไทย และจะเป็นแรงหนุนให้ SET Index เดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อระหว่างรอการเข้าสู่ช่วงเลือกนายกฯ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนก.ค. ขณะที่หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย และสินเชื่อ รวมถึง SET Index ค้าดได้ Sentiment ทางบวกจากการรายงานเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของไทยในวันนี้ ตลาดคาด Headline CPI ขยายตัว 0.00% y-y ชะลอลงจาก 0.53% y-y ในเดือนพ.ค. สอดรับกับราคาพลังงานโลกในช่วงเวลาดังกล่าวที่ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วน Core CPI ตลาดคาดขยายตัว 1.40% y-y ชะลอลงจาก 1.55% y-y ด้านหุ้นในกลุ่มยานยนต์และนิคมฯ คาดได้ Sentiment ทางบวกจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนสู่ไทย จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังไม่คลี่คลาย และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ในทางกลับกัน ความขัดแย้งดังกล่าวคาดุเป็น Sentiment ทางลบเบาๆ ต่อ SET Index ในภาพรวมจากความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก นอกจากนี้ ทางขึ้นของ SET Index ยังถูกจำกัดจากการระมัดระวังในการซื้อขายของนักลงทุน เนื่องจากรอติดตาม Fed Minutes ในคืนนี้
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AP, CPALL, CPN, CRC, HMPRO, KTC, MTC, PLANB, OR, SAPPE, SAWAD, SPA 2) ยานยนต์+นิคมฯ: AH, AMATA, NER, NEX, ROJNA, SAT, WHA และ 3) การเมืองชัดเจนขึ้น: CK, KBANK, SCB
ปัจจัยบวก
- กองศก.การท่องเที่ยวและกีฬาเผยประเทศไทยมีจํานวนนทท. ต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-2 ก.ค. 13 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนทท.ต่างชาติแล้ว 5.38 แสนลบ.
- ฉางอัน ออโตโมบิล ยืนยันแผนการลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในไทย ด้วยเงินลงทุนเฟสแรกประมาณ 9 พันลบ.
- JPMorgan มองตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีความน่าสนใจ เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานเริ่มทยอยย้ายฐานจากจีนไปยังภูมิภาคดังกล่าว และความเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของศก.จีน
- รอยเตอร์รายงานว่าบรรดาธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัฐบาลจีน ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์ สหรัฐเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน เพื่อพยายามสกัดการอ่อนค่าของเงินหยวน
ปัจจัยลบ
- สรท.เผยภาวะการส่งออกในปีนี้อาจไม่เติบโตตามที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ จากภาวะศก.ของประเทศคู่ค้าสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีนยังไม่ฟื้นตัว ทําให้คาดว่าการส่งออกในปีนี้ จะอยู่ในช่วง -0.5 ถึง 1% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 0-1%
- Epiq Bankruptcy เผยยอดการยื่นขอล้มละลายตามมาตราที่ 11 ของสหรัฐฯ ในช่วง 1H66 พุ่งขึ้น 68% y-y สะท้อนให้เห็นถึงครอบครัวและธุรกิจจํานวนมากที่เผชิญกับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
- จีนเผยจะควบคุมการส่งออกโลหะกัลเลียมและเจอร์มาเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่สําคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนฯ สื่อสารโทรคมนาคม และ EV ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ปีนี้ เป็นการเพิ่มความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และอาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
PICKS OF THE DAY
PLANB BUY
- เป้าหมาย 8.50 / 9.00 แนวรับ 7.80 / 8.00
- ธุรกิจฟื้นจาก U Rate สูงขึ้น: ธุรกิจ OOHM ฟื้นตัวหลังโควิดดีขึ้น คนออก นอกบ้านมากขึ้น ทำให้ U Rate ขายป้ายฟื้นตัว โดยใน 2Q66 U Rate คาดที่ 67-68% จาก 1Q66 ที่ 64.8% และ 2Q65 ที่ 57.3% อีกทั้งรายได้จากการตลาดแบบมีส่วนร่วมยังมีแนวโน้มเติบโต ทำให้ 2Q66 กำไรจะดีขึ้นทั้ง q-q, y-y
- 2H66 แนวโน้มดี, ลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกมีผลลบน้อยมาก: 2H66 แนวโน้ม OOHM ยังดีจาก U Rate สูงขึ้น และรับรู้รายได้กีฬามวย RWS ดีขึ้น รวมถึงบริหารศิลปินจากการจัดอีเวนต์ใหญ่ 5-6 อีเวนต์ ทำให้ 2H66 คาดจะดีกว่า 1H66 ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกมีผลกระทบน้อยมาก เพราะในปี 2565 มีรายได้ที่ 60 ลบ. ไม่ถึง 1% ของรายได้
CPALL BUY
- เป้าหมาย 65.00 / 67.75 แนวรับ 62.00 / 63.00
- การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ: การบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวหนุนยอดขาย สะท้อนผ่านจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการมากขึ้น ส่งผลให้ใน 1Q66 รายได้เฉลี่ยต่อวันต่อสาขาและ SSSG ขยายตัว 8.0% y-y รวมถึงมีแผนขยายสาขาเพิ่มให้ครบ 700 สาขา ภายในปี 66
- การปลดภาระทางด้านดอกเบี้ย: คาดกำไร 3Q66 ของ CPALL จะเพิ่มขึ้น q-q ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของต้นทุนทางการเงิน เนื่องจากการแปรสภาพหนี้สกุลดอลลาร์ที่เป็น Float Rate ของ MAKRO ให้เป็นหุ้นกู้ ส่งผลให้ไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ยลอยตัว