อาจมีพักบ้าง / 1500-1520

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET แกว่งออกข้างอาจพักฐานบ้าง : รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมเฟด ซึ่งระบุว่า กก.เฟดส่วนใหญ่มองว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ล่าสุด Fedwatch tool ให้น้ำหนักกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในรอบการประชุมเดือน ก.ค.กว่า 88.77% นอกจากนี้ผลกระทบจากตัวเลข Service PMI หลายประเทศที่ออกมาในทิศทางชะลอตัว ร่วมกันสร้าง Sentiment ลบให้กับตลาด ด้านหุ้นขนาดใหญ่อย่าง DELTA ที่มี Market Cap ค่อนข้างสูงมองอาจจะกดดันตลาด เนื่องจากวานนี้ Semiconductor index ที่สะท้อนราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สหรัฐฯ ถูกกดดันให้ปรับตัวลงกว่า 2.2% จากประเด็นการจำกัดการส่งออกวัตถุดิบในการผลิตชิป อย่างแร่ Gallium และ Germanium โดย DELTA มีความสัมพันธุ์ในทิศทางเดียวกันกับดัชนีดังกล่าว จึงอาจปรับตัวลงตามกดดันภาพรวมตลาดหุ้นไทย ด้านปัจจัยบวกมองหุ้นในกลุ่มพลังงานจะเข้ามาจำกัด Downside ของตลาดหุ้นในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 รับปัจจัยบวกจากการลดกำลังการผลิตของรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย อาจทำให้อุปทานในตลาดน้ำมันกลับมาตึงตัวอีกครั้ง ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ปรับตัวลง สะท้อนความต้องการน้ำมันที่มีมากขึ้น ด้านปัจจัยบวกต่อตลาดยังมาจากความชัดเจนด้านการเมือง หลังวานนี้มีการเคาะเลือกวันโหวตนายกฯ แล้ว นอกจากนี้เงินเฟ้อไทยที่ชะลอตัวลงเป็น เดือนที่ 6 อาจเข้ามาหนุนกลุ่ม Domestic Play เช่น COMM โรงแรม ให้ปรับตัวขึ้นได้คึกคัก อย่างไรก็ตาม มองปัจจัยบวกอาจมีนํ้าหนักน้อยกว่า เนื่องจากตลาดได้ซึมซับประเด็นไปบางส่วนแล้ว จึงอาจต้องระมัดระวังการพักฐานในช่วงสั้นๆ
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AP, CPALL, HMPRO, SAWAD, SPA 2) ยานยนต์+นิคมฯ: AH, AMATA, NER, NEX, SAT และ 3) การเมืองชัดขึ้น: CK, KBANK, SCB 4) Defensive :ADVANC, BDMS 5) พลังงาน : BCP, PTTEP, TOP

ปัจจัยบวก

  • การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงน่าสนใจ หลังประธานสภาเคาะแล้ว เปิดประชุมสภาในวันที่ 12 ก.ค.66 พร้อมเรียก ประชุมโหวตนายกฯ วันที่ 13 ก.ค. 66 คาดจะส่งผลบวกต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาในช่วงก่อน หน้า
  • ครม.อนุมัติหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ สามารถถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทที่เป็นนิติบุคคลในเครือหน่วยงานของรัฐได้ไม่น้อยกว่า 50% จากเดิมไม่น้อยกว่า 25% คาดเป็นบวกต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย
  • เงินเฟ้อไทย เดือนมิ.ย.66 ชะลอตัวลงแตะระดับ 0.23% y-y จากเดือนก่อนที่ 0.53% y-y นับเป็นการชะลอตัวลง ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

ปัจจัยลบ

  • กกร. นคาดการณ์ส่งออกปีนี้เหลือ -2 ถึง 0% จากเดิม มองจะชะลอตัวในกรอบ -1 ถึง 0% รวมถึงปรับลดกรอบ เงินเฟ้อปีนี้ลงเหลือ 2.2-2.7% จากเดิม 2.7-3.2% มองปัญหาค่าครองชีพ และหนี้ครั้วเรือนที่ทรงตัวในระดับสูง (90.6%ของ GDP) กดดันการบริโภคทำให้ประชาชนมีข้อจำกัดและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
  • Bloomberg ชี้ นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนมอง MSCI Asia Pacific Index จะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 174 จุด ลดลงจากคาดการณ์เดิมในสามเดือนก่อน ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจจีนที่กดดัน
  • Service PMI จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และ ยูโรโซน เดินหน้าประกาศออกมาในทิศทางชะลอตัว

PICKS OF THE DAY

AOT BUY

  • เป้าหมาย 73.00/74.00 แนวรับ 70.00/71.00
  • 6M66 นทท. +519% y-y: 6M66 นทท. เดินทางมาไทย 12.87 ล้านคน +519% y-y นำโดย นทท. มาเลเซีย ตามด้วยจีน และรัสเซีย โดยยังมีสัญญาณที่ดีจาก ททท. คาด นทท. ในก.ค. อยู่ที่ 2.29 ล้านคน +104% y-y ซึ่ง 1-2 ก.ค. เข้ามาแล้ว 0.16 ล้านคน
  • 2H66 นทท. สูงกว่า 1H66 และไม่ต่อมาตรการช่วยเหลือ: ททท. คาด นทท. ปีนี้ที่ 27.39 ล้านคน ซึ่ง 2H66 จะเข้ามาอีก 14.52 ล้านคน โดยเฉพาะ 4Q66 ที่เป็น high season และยังมี Golden Week ของจีน ช่วง 1-7 ต.ค. อีกทั้งไม่ต่อมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการในสนามบิน การจัดเก็บรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น แนว โน้มรายได้ Non-Aero มากขึ้น

SIRI BUY

  • เป้าหมาย 2.00/2.10 แนวรับ 1.92/1.95
  • ยอดโอนเติบโต: 2Q66 Presale 10,022 ลบ. +36.8%y-y +23.9% q-q เติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง คาดรายได้โอนไตรมาสนี้แตะ 9,500 ลบ. +y-y และ +q-q รายได้โอนระดับนี้บวกกับ 2H66 ที่จะเปิดตัวโครงการมูลค่ากว่า 56,500 ลบ. มากกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจกำไรปี 66 โตกว่าปี 65 และจะเติบโตเป็นลำดับต้นๆในอุตฯ
  • รอดูราคาวิ่งตามผลประกอบการ: ปัจจุบันราคาหุ้นยังอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูง PE ที่ 5.5 จับตาราคาวิ่ง All time high ตามกำไรปี 66
- Advertisement -