ตลาดสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้ / 1,490-1,505
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET ซึมลง กดดันทั้งภายนอกและภายใน: แรงกดดันวันนี้ทั้ง Sentiment เชิงลบจากฝั่งสหรัฐ แม้มีการเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ต่ำกว่าคาดสู่ 2.09 แสนตำแหน่ง แต่ ปธ.เฟดชิคาโกยังหนุนการขึ้นดอกเบี้ยต่อไป เพื่อเป้าหมายเงินเฟ้อลดลง ส่งผลให้ Fed Watchtool ยังเทน้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 25 bps สู่ 5.25-5.50% ในรอบประชุม 26 ก.ค.นี้ และยังมีโอกาสที่หลังจากนั้นจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งสู่ระดับ 5.50-5.75% และใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงนี้ไปตลอดปี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกยังพอมีบ้าง หลังราคาน้ำมัน WTI บวกกว่า 1% ยืน 73$/bbl ในเช้านี้ รับอุปทานน้ำมันยังตึงตัว ซึ่งช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็น Big Cap ให้ประคองดัชนี ส่วนการเยือนจีนของ รมต.คลังสหรัฐ แม้เป็นไปได้ด้วยดี แต่ความเห็นต่างยังมีมาก ทำให้ภาพรวมความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้า ซึ่งจะยังเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มนิคมฯ ขณะที่เช้านี้ติดตามจีนจะรายงานตัวเลข CPI คาดทรงตัว และ PPI คาดจะหดตัวต่อ สำหรับปัจจัยภายในยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูง หลังคณะ กก.ตรวจสอบ กกต.วันนี้จะพิจารณาคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในกรณีการถือหุ้น ITV ก่อนการโหวตนายกฯ ที่จะมีขึ้น ในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ซึ่งหากถูกตัดสิทธิ์ อาจกดดันดัชนีในระยะสั้นได้ แต่หากไม่ถูกตัดสิทธิ์ ยังมีอีกหลายด่านที่ยังต้องฟันฝ่า จึงเป็นเหตุให้ทางฝ่ายแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ อาจเลือก Wait & See ไปก่อน หรือเลือกกลยุทธ์ที่ป้องกันความเสี่ยง ให้แก่ Portfolio, สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจแบ่งสัดส่วนลงทุนเพื่อเก็งกำไรในหุ้นพื้นฐานดีที่คาดงบ 2Q66 เชิงบวก หรือมีปัจจัยเฉพาะตัว เพื่อหวังเข้าซื้อหุ้นในสภาวะที่ยังถูก และขายทำกำไรเมื่อการเมืองไทยเริ่มชัดเจน
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending : CBG, CPALL, SAPPE, SNNP, ICHI 2) Motor Show + Commart: AH, BTS, COM7, SCB 3) คาด Preview งบ 2Q66 โดดเด่น : ADVANC, AOT, BA, BEM, CPF 4) นํ้ามัน: BCP, PTT, PTTEP, PTTGC
ปัจจัยบวก
- รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุว่าทางพรรคได้เสียง สว. ครบตามจํานวนแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถโหวตพิธา ให้เป็นนายกได้ตั้งแต่การโหวตรอบแรก
- รมต.คลังสหรัฐหารือผู้ว่าการธ.กลางจีน เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้า โดยประธานหอการค้าจีนมองการมาเยือนของสหรัฐจะช่วยให้ความร่วมมือทางการค้าสูงขึ้น
- ไทยเตรียมหารือข้อตกลง FTA ไทย-อียู ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในวันที่ 18 ก.ค. นี้ ก่อนที่จะเจรจาเต็มคณะ ก.ย. 66 ซึ่งจะช่วยหนุนกลุ่มส่งออกไทยและหนุนเทคโนโลยีไทย
ปัจจัยลบ
- ผอ.สำนักงบฯ เผยงบกลางฉุกเฉินปี 66 ไทยเหลือต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และเตรียมหารือรัฐบาลใหม่ หลังโหวตนายกฯ
- สมาคมค้าปลีกไทยเผยดัชนีค้าปลีก 2Q66 ยังต่ำกว่าระดับ 50 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน จากกำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนแอ, ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และยังไม่มี ม. กระตุ้น ศก.ใหม่เข้ามาช่วยพยุง
- Mortgage News Daily รายงานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในสหรัฐได้มากกว่าระดับ 7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน กดดันตลาดอสังหาฯ ในสหรัฐ
PICKS OF THE DAY
AH BUY
- เป้าหมาย 36.50/38.00 แนวรับ 34.25 / 35.00
- Fast Auto show & EV Expo: ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ กอปรกับงานจัดแสดงรถยนต์ที่ BITECH วันที่ 5-9 ก.ค. ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น จะช่วยหนุนให้ยอด Order พาร์ท ชิ้นส่วนทั้งรถยนต์แบบ ICE และ BEV มีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังจบงาน
- บริษัทเตรียมลงทุน AVEE : ปัจจุบันบริษัทมีแผนลงทุน 312 ลบ. เข้าซื้อหุ้นบริษัท AVEE สัดส่วน 40% ซึ่งเป็นบริษัทผลิตพาร์ทชิ้นส่วนให้แก่รถยนต์ PROTON ซึ่งจะช่วยบุกตลาดมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่แก่ทางบริษัท นอกจากนี้ จากการที่ GEELY เข้าถือหุ้น PROTON ในสัดส่วน 49.9% ทำให้ทางบริษัทถือเป็นพันธมิตรกับทาง GEELY จากจีนด้วย
SAPPE BUY
- เป้าหมาย 85.00/88.00 แนวรับ 78.50/80.00
- 2Q66 ลุ้นเติบโตทั้ง y-y และ q-q: ผลดำเนินงาน 2Q66 มีแนวโน้มเติบโต y-y และ q-q ตาม Capacity ที่เพิ่มขึ้น 30% โดยคาดว่า U-rate ใน 2Q66 จะปรับตัวขึ้นสู่ 85% จาก 81% ใน 1Q66 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปที่สินค้าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี สะท้อนจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งใน 1Q66 ขณะที่เป้าทั้งปีผู้บริหารยังคงเป้ารายได้เติบโต 25%
- บาทอ่อนหนุนรายได้: สกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการ จากสัดส่วนของรายได้ของ SAPPE ซึ่งเป็นสกุลเงิน USD และ EUR ประมาณ 60-70%