อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลงต่อเนื่อง เป็นบวกกับหุ้น

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวก 0.6% หลังจากเจ้าหน้าที่ FED หลายคนส่งสัญญาณว่า FED ใกล้ยุติการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.9% เผชิญแรงทำกำไรหลังจากปรับขึ้นแรงในวันก่อนหน้า

Market Outlook

นักลงทุนคล้ายกับว่าจะผ่อนคลายกับภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ สะท้อนผ่านการปรับลงต่อเนื่องของ US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปี พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้โดย Dow Jones ปิดบวกไป 0.6% เราเชื่อว่านักลงทุนกำลังให้น้ำหนักกับทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลาย โดยมีกำหนดรายงานในวันพุธช่วงกลางคืนตามเวลาไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.1%YoY ชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ 4%YoY ขณะที่ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 5.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับเข้าสู่ 2.15% (ใช้คาดการณ์เงินเฟ้อล่าสุด) ซึ่งระดับ 2.15% จะเกินกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 1970 ที่ 0.85% ส่งผลให้เราเชื่อว่าดอกเบี้ย FED กำลังเข้าใกล้จุดสูงสุด และประเด็นดอกเบี้ยจากนี้ไม่ควรเข้ามากดดันตลาดหุ้นมากนัก โดยล่าสุด CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 93% ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมสิ้นเดือน 7 และหลังจากนั้นก็จะไม่ปรับขึ้นอีก ส่วนคืนนี้ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

ปัจจัยในประเทศเชื่อว่านักลงทุนยังคงรอดูการเลือกนายกฯ ในวัน ที่ 13 ก.ค. ล่าสุดมีรายงานจากกรุงเทพธุรกิจระบุว่า 90% ของ ส.ว. จะงดออกเสียง เบื้องต้นอาจตีความได้ว่าในการโหวดรอบแรกอาจมิสามารถผ่านไปได้ อย่างไรก็ ตาม เชื่อว่าตลาดรับรู้อยู่แล้วและอาจมีการปรับฐานบ้างเล็กน้อยแต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 1450 โดย Timeline การโหวดรอบ 2 และรอบ 3 อยู่ในวันที่ 19 และ 20 ก.ค. หากสามารถผ่านไปได้ใน 2 รอบสุดท้ายก็เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกจากความชัดเจนด้านการเมือง ขณะที่สถานะ Foreign Fund Flow ล่าสุดให้ภาพเชิงบวกหนุนจากการที่เปิดสถานะ Long TFEX 2 วันติดต่อรวมกันราว 1.64 หมื่นสัญญา

วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวขึ้นในกรอบ 1497 – 1510 รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเช้านี้ Nikkei แกว่งบวกราว 0.8% เชิงกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนรับความเสี่ยงต่ำทยอยลดพอร์ตการลงทุนก่อนเข้าใกล้วันเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนระยะสั้นสำหรับ Trading แนะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL ERW MINT SPA) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อนอกบ้าน (PLANB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท (+50% YoY, +3% QoQ) แม้รายได้ค่าธรรมเนียมจะเบาบาง และคาดถึงกำไรสุทธิจากมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรขาดทุน (FVTPL) ที่น้อยลงเพราะตลาดทุนที่ผันผวน แต่คาดว่ากําไรสุทธิจะโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จาก 1) NII ที่โตขึ้นเพราะ NIM ที่ขยายตัว และ 2) การตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง

AOT (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท) ระยะยาวการใช้บริการสนามบินจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทําให้ AOT มีแผนการขยายสนามบินเช่นกัน ล่าสุดมีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการขยายสนามบินเพิ่มจากที่เคยประกาศมาก่อนหน้านี้อย่าง อาคาร Satellite terminal-1 : SAT1 (เปิด ก.ย. 23) รันเวย์ที่ 3 เปิดปี 24 และอาคารเทอร์มินอล 3 สนามบินดอนเมือง คือการขยายสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ที่จะเริ่มก่อสร้างในปี 26 ซึ่งจะทําให้ในอีก 8 ปีจากนี้ AOT จะมีความสามารถรองรับผู้โดยสารรวมได้มากกว่า 200 ล้านคน จากปัจจุบันมี 100 ล้านคน

- Advertisement -