บล.เอเอสแอล: (ภาคเช้า) 11/07/66

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้ SET ปิดที่ 1,496.89 จุด เพิ่มขึ้น 6.38 จุด (+0.43%) มูลค่าซื้อขาย 34,045.86 ล้านบาท แกว่งตัวในกรอบแคบตามภูมิภาค และมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นรายตัวในผลประกอบการดี

Research Highlight: เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณใกล้ยุติขึ้นอัตราดอกเบี้ย/SET ลุ้นทดสอบ 1500 จุด

เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณใกล้ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• แมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวในงานเสวนา ซึ่งจัดขึ้นที่สถาบันบรูกกิ้งส์ (Brookings Institution) วานนี้ ว่าสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และเฟดก็ใกล้จะเข้าสู่ “ช่วงสุดท้าย” ของวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สอดคล้องกับ ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวในงานเสวนา ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีความเห็นว่าเฟดกำลังใกล้ยุติวงจรการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นแรง แต่ทั้งนี้ตลาดยังคงเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในรอบปลาย ก.ค. นี้ โดยลุ้นตัวเลข CPI-PPI ที่อาจดีกว่าคาด ขณะที่ US bond yield อายุ 2 และ 10 ปี ยังปรับตัวขึ้นในอัตราที่ลดลง แต่ dollar index อ่อนค่าต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับ 101.5 จุด มองเป็น sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนทั่วโลก
• ในเชิงกลยุทธ์ กลุ่ม Semiconductor ปรับตัวขึ้นแรงเป็นบวกต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ-ชิป อย่าง HANA KCE DELTA SICT รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีหลัง บ.เมต้า รายงานผู้ลงทะเบียนใช้งาน “เธรดส์” (Threads) จำนวนมากกว่า 100 ล้านคนภายในเวลาเพียง 5 วันหลังการเปิดตัว และเป็นการทุบสถิติการทํายอดสมาชิก 100 ล้านเร็วที่สุดของแอปพลิเคชั่นในโลกโซเชียลมีเดีย เป็นบวกต่อ ADVANC INTUCH TRUE ที่มีแนวโน้มการใช้ data ที่มากขึ้น

เงินเฟ้อจีนชะลอตัวลง

• จีนรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ออกมาที่ -0.2% MoM, +0.0% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ +0.2% YoY ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 2 ปี และเป็นการชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สาเหตุหลักมาจากการปรับลดราคาของกลุ่มอาหาร ของใช้จําเป็น และการเดินทาง
• ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มิ.ย. ออกมาอยู่ที่ -5.4% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ -5% สาเหตุหลักมาจากการปรับลดลงของราคาพลังงาน ราคาถ่านหิน และสินค้าด้านอุตสาหกรรม ซึ่งการปรับตัวชะลอลงของเงินเฟ้อในจีนสะท้อนให้เห็นการบริโภคที่อ่อนแอ
• ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมาตรากระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเล็กน้อย และนโยบายลดหย่อนภาษีสําหรับผู้ซื้อรถยนตร์ไฟฟ้า ซึ่งตลาดมองว่าไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
• ปัจจัยที่น่าติดตามคือ รายงาน GDP ไตรมาสที่ 2 ของจีนในวันที่ 17 ก.ค. โดยตลาดคาดว่าจะเติบโต 4.5% YoY ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าที่คาด มองว่ามีโอกาสที่รัฐบาลจีนจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
• แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน คือ กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC, IVL กลุ่มส่งออกจีน NER, KCE, HANA

ตลท.เตรียมจัดงาน Thailand Focus เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

• ตลท. เตรียมจัดงานไทยแลนด์โฟกัส 3 ส.ค. นี้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจงของตลาดหุ้นไทย หลังมูลค่าการซื้อขายหดตัวลงกว่า 42%YTD จากประเด็นทางการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจน และกังวลบจ. ผิดนัดชำระหนี้ แต่ทั้งนี้ ตลท. มีมุมมองเชิงบวกต่อช่วง 2H66 ว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว และเข้าใกล้ปลายทางวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของหลายธนาคารใหญ่ทั่วโลก
• ในเชิง sentiment ตลาดหุ้นไทยมักตอบสนองในเชิงบวก หลังจัดงาน Thailand focus แนะนำ ทยอยสะสมหุ้น big cap ที่ปรับตัวลงแรงมาก่อนหน้านี้ เราชอบกลุ่มธนาคาร BBL KBANK TTB กลุ่มค้าปลีก GLOBAL HMPRO CPALL กลุ่มส่งออก-อาหาร BTG TU CBG กลุ่มโรงไฟฟ้า (เก็งกำไร จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลง จะช่วยชดเชยผลของการลดค่า ft งวด ก.ย.-ธ.ค.66) BGRIM GPSC

สัปดาห์นี้ติดตาม

• 11 ก.ค. : แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA
• 12 ก.ค. : อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ (CPI และ Core CPI) MoM YoY (มิ.ย.)
• 13 ก.ค. : ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ MoM (มิ.ย.)
• 14 ก.ค. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ

Investment Strategy

• ประเมิน SET ปรับตัว Sideway up ตอบรับ sentiment เชิงบวกที่เฟดใกล้ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย รอผลการเลือกนายกและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ แนวต้าน 1500/1515 แนวรับ 1490/1480
• เชิงกลยุทธ์แนะนำ หุ้นกลุ่ม Blue Chip ที่ %YTD ติดลบ (Laggard) และมี Beta น้อยกว่า 1 ได้แก่ BBL BDMS ADVANC LH เพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยทางการเมืองและแนวโน้ม ศก. ที่ถดถอยทั่วโลก

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดใกล้จะยุติวงจรการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ และรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการนํ้าตลาดปรับตัวขึ้น และช่วยลดผลกระทบจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของจีน ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ซบเซาในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งความกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดลบเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

หุ้นเคาะไป คุยไป…GLOBAL

• แนวโน้มปี 56 คาดว่ายังทรงตัว YoY ตามแนวโน้ม SSSG ที่อ่อนแอในช่วง 1H66 แต่จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วง 2H66 ตามภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดในประเทศอีก 6 สาขา จากปัจจุบันที่มี 78 สาขา ส่วนในกัมพูชา เป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพในการเติบโตสูง ตามความต้องการวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่อีก 1 สาขา ช่วงปลายปี ในลาวมีสาขา แล้ว 7 สาขา จะปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ส่วนเมียนมาร์ ปัจจุบันมี 12 สาขา สิ้นปีนี้จะเปิดเพิ่ม อีก 1 สาขา
• แนวโน้ม 2Q66 คาดว่า SSSG ที่ฟื้นตัว เทียบ 1Q66 ที่ระดับ -8% แต่เป็นช่วง low season ของธุรกิจ ตามวันหยุดที่เยอะ และงานโครงการภาครัฐที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้แนวโน้มกำไรสุทธิลดลง QoQ และ YoY (จากฐานที่สูงของ SSSG) อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากว่า 20%YTD สะท้อนผลประกอบการที่ไม่โดดเด่นในปีนี้ไปพอสมควรแล้ว แต่ในเชิง Valuation ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่บน PE เพียง 26.8x เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่ม home improvement (PE HMPR0=28.5x, PE DOHOME=70x) มีความน่าสนใจ ซึ่งราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus อยู่ที่ 20 บาท
• ในเชิง Sentiment เรามองว่าตลาดเริ่มรับรู้ผลกระทบที่เป็นเชิงบวกของแนวโน้มต้นทุน ในช่วง 2H66 เป็นต้นไป กล่าวคือ ค่า Ft ที่ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับตัวลง และประเมินว่าจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าแนวโน้มการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่งผลให้แนวโน้มต้นทุนใน 2H66 จะลดลง ประกอบกับมีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.66 อยู่ที่ระดับ 55.07 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน สะท้อนแนวโน้ม 3-6 เดือนข้างหน้า ภาพการบริโภคยังแข็งแกร่ง หนุนภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีก

- Advertisement -