ข้างนอกสดใส ข้างในกังวล / 1480-1500

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET แกว่งตัวออกข้าง : มอง SET มีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง Sentiment ภายนอกหนุน แต่ภายในยังต้องจับตาการเมือง ปัจจัยที่ตลาดให้นําหนักเป็นหลัก มองเป็นประเด็นการเมืองในวันเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะที่ท่าทีของประชาชนบางกลุ่ม เริ่มออกมาแสดงจุดยืน นัดประชุมม๊อบทั่วประเทศ รวมถึงบริเวณหน้ารัฐสภาเพื่อกดดันการโหวตเลือกนายก โดยมองระยะสั้นหากการเลือกนายกเป็นไปด้วยดี อาจไม่เกิดความรุนแรง เป็นบวกต่อภาพตลาดหุ้น การลงทุน และการท่องเที่ยวในระยะสั้น แต่หาก นาย พิธา ได้รับเสียงสนับสนุนไม่มากพอ อาจต้องระมัดระวังสถานการณ์บานปลาย ซึ่งอาจเข้ามากดดันภาพรวมอีกครั้ง ด้านปัจจัยภายนอก Sentiment บวกค่อนข้างดี มาจากการประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ของเดือนมิ.ย.ออกมาที่ +3.0% นอกจากจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ +3.1% แล้วยังเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 64 ตลาดการเงินสหรัฐตอบรับในเชิงบวก วานนี้ NASDAQ ปรับตัวขึ้นกว่า 1,15% โดยตลาดคาดหวังการยุติวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของ FED เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว ค่อนข้างปรับตัวลงใกล้เป้าหมายเงินเฟ้อที่ FED ต้องการแล้ว คาดหนุน Sentiment บวกให้ตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง Dollar เข้าหาสินทรัพย์ลงทุน โดย Dollar Index ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ขณะที่ US Bond Yields ปรับตัวลงทั้งในระยะสั้นและยาว ลดแรงกดดันต่อภาพรวมตลาดหุ้น ในส่วนของราคาน้ำมันเดินหน้าในทางบวกรับอานิสงส์จากทั้ง Dollar Index ที่อ่อนตัวลง และคลังสำรองน้ำมันสหรัฐที่ปรับตัวลงอย่างมาก สะท้อนอุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่ง มองยังหนุนกลุ่มพลังงาน โดยรวมมองปัจจัยภายนอกดี เช้านี้ลุ้นจับตาตัวเลขนําเข้าส่งออก ของจีน
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1.) งบ 2Q66ดี : AOT,ADVANC, TRUE, BEM 2.) พลังงาน : PTT, PTTEP, TOP, BCP 3.) นิคมอุตสาหกรรม : AMATA, WHA 4.) Defensive : BH, SCC

ปัจจัยบวก

  • สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเผยยอดจําหน่ายรถ EV ใหม่ของจีน ช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 โต 44.1% (y-y) โดยยอดจําหน่ายเฉพาะในเดือน มิ.ย. โต 35.2% เทียบกับปีก่อน เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมที่มีการเดินหน้าย้ายฐานการผลิตมายังไทยในช่วงก่อนหน้า
  • การกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นอุ้มอสังหาของจีนยังเป็นปัจจัยบวกหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง หนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นนํ้า
  • กรมอุตุเตือนเข้าสู่ช่วงหน้าฝน 15-21 ก.ค. ระวังฝนตกหนักเป็นช่วงที่เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด มองจะยืนแข็งแกร่ง

ปัจจัยลบ

  • ค่าเงินบาทผันผวน พลิกลับมาอ่อนค่ารับความไม่แน่นอนของทิศทางการเมืองภายใน มองทิศทาง Fundflow จะชัดเจน หลังมีความชัดเจนในประเด็นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
  • กลุ่มความมั่นคง และกลุ่มสนับสนุนนาย พิธา นัดชุมนุมในหลายจังหวัด เพื่อกดดันการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ มองหากนายพิธา ได้รับเสียงโหวตไม่เพียงพอ อาจเป็นเชื้อไฟให้กลุ่มผู้ชุมนุมลุกฮือ

PICKS OF THE DAY

BH BUY

  • เป้าหมาย 225.00/230.00 แนวรับ 213.00/215.00
  • ไข้เลือดออกหนุนกำไร BH: ทางฝ่ายคาดธุรกิจโรงพยาบาลเข้าสู่ช่วง High season จากการแพร่ระบาดของโรคที่มากับฝน อาทิ ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ ไข้ปวดยุงลาย เป็นต้น โดย สธ. เผยแนวโน้มผู้ป่วยจากไข้เลือดออกปีนี้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน3เท่าและรูปแบบอาการไม่เหมือนเดิม
  • แนวโน้มได้ลูกค้าจากต่างชาติเพิ่มขึ้น: โดยเฉพาะฝั่ง Middle East เช่น กาตาร์, โอมาน และ ซาอุฯ ซึ่งมีสัดส่วน Self-pay ค่อนข้างสูงรวม ถึงได้มีการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลก่อนหน้านี้
  • เป็น Defensive Stock: ค่าBetaของบริษัทอยู่ที่ 0.75 ซึ่งเหมาะแก่การเป็นที่หลบภัยภายใต้สภาวะที่ผันผวนของตลาดในเวลานี้

PTTEP BUY

  • เป้าหมาย 158.00/ 163.00 แนวรับ 151.00/153.00
  • หลบการเมืองในประเทศ: ปัจจัยผลักดันสำคัญของ PTTEP คือ ปัจจัยภายนอกอย่างราคาน้ำมันโลก ทำให้ได้รับผลกระทบจากการเมืองในประเทศอย่างจำกัด นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการที่ IEA เผยว่าตลาดน้ำมันโลกอาจจะเผชิญภาวะอุปทานตึงตัวในช่วง 2H66 จากการคาด การณ์ว่าอุปสงค์จากจีนและประเทศกำลังพัฒนายังคงแข็งแกร่ง และ OPEC+ ได้ลดกำลังการผลิต
  • แรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิต: ในช่วงครึ่งหลังของปีมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตของแหล่งเอราวัณที่ได้เพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 210 เป็น 400 MMSCFD ตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา และคาดสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 600 MMSCFD
- Advertisement -