เศรษฐกิจจีนยังไม่แข็งแกร่ง มองเป็นลบกับเศรษฐกิจไทย
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.2% ได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม Tech และกลุ่มการเงิน ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตารอดูผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.7% หลังจากจีนรายงานเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมาจีนรายงาน GDP 2Q23 พบว่าขยายตัวเพียง 6.3%YoY ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 7.1%YoY นอกจากนี้พบว่าอัตราการว่างงานของกลุ่มอายุ 16 – 24 ปี ปรับขึ้นมาทดสอบระดับ 21.3% ในเดือน มิ.ย. นับเป็นตัวเลขที่สูงสุดในประวัติการณ์ พร้อมกับยอดค้าปลีกขยายตัวเพียง 3.1%YoY ต่ำกว่านักวิเคราะห์ ประเมินไว้ที่ 3.4%YoY อย่างไรก็ตาม รายงานผลผลิตอุตสาหกรรม +4.4%YoY ดีกว่าตลาดประเมินไว้ที่ 2.5%YoY แต่โดยรวมแล้วยังสะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่กลับไปแข็งแกร่งเหมือนช่วงก่อนหน้า สำหรับสหรัฐฯ เมื่อคืนมิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่คืนนี้จะมียอดค้าปลีกประจำเดือน มิ.ย. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.5%MoM หากต่ำกว่าตลาดประเมินไว้มองเป็นบวกกับตลาดหุ้น
สําหรับการเคลื่อนไหวของหลายๆ สินทรัพย์เมื่อคืนพบว่า US Bond Yield ทั้งอายุ 2 และ 10 ปีปรับตัวขึ้นเล็กน้อย Dollar Index อ่อนค่าเล็กน้อย ราคาทองคำทรงตัว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นเล็กน้อย ภาพรวมสะท้อนว่ายังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยปัจจัยสำคัญมองไปยังประชุม FED สัปดาห์หน้า CME FED Watch ให้น้ำหนัก 98% ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทดสอบระดับ 5.5% อย่างไรก็ตาม แนะติดตามถ้อยแถลงจากประธาน FED ต่อทิศทางดอกเบี้ยหลังจากนี้ สำหรับภายในประเทศยังคงติดตามการเมือง ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโหวดนายกฯ พบว่า 8 พรรคร่วมยังคงเสนอชื่อคุณพิธาในการโหวดรอบ 2 เช่นเดิม โดยการโหวดรอบ 2 จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค. แต่หากยังคงไม่ได้เช่นครั้งแรกก็พร้อมถอยให้เพื่อไทยมาตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ เราเชื่อว่าผลโหวดรอบ 2 ยังคงคล้ายกับครั้งแรก กล่าวคือยังคงขาดเสียงหนุนจาก ส.ว. แต่ก็ประเมินไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตลาด เชื่อว่าตลาดกำลัง Price In ไปแล้ว ท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1520 – 1535 เชิงกลยุทธ์การลงทุนทยอยลดพอร์ตการลงทุน ประเมินดัชนีตอบรับเชิงบวกไปมากแล้วเกี่ยวกับการเมือง จากการฟื้นขึ้นมาราว 3.5% จากจุดต่ำสุดเดิม ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเลือกกลุ่ม Bank (BBL KBANK KTB SCB) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ที่ 3.85 พันล้านบาท (+28%YoY, -6%QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่แข็งแกร่ง และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีจากธุรกิจร้านสะดวกชื้อ ซึ่งน่าจะชดเชยผลกระทบจากการจ่ายค่าตอบแทนพนักงาน ค่าไฟฟ้าและต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นได้ ขณะที่คาดว่าค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค. – ส.ค. 2023 ที่ลดลง 10.5% เป็น 4.77 บาท/ยูนิต จาก 5.33 บาท/ยูนิต ในเดือน ม.ค. – เม.ย. 2023 จะกลายเป็นปัจจัยบวกสำคัญของบริษัท
CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 49.00 บาท) เราเชื่อว่ากำไรจะฟื้นแข็งแกร่ง HoH ในครึ่งหลังปี 2023 หนุนจากยอดขายที่ดีดตัวขึ้นในย่านท่องเที่ยว ยอดขายออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) ที่โตดี ประสิทธิภาพบริการจัดส่งสินค้าที่พัฒนาขึ้น และค่าไฟฟ้าและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง