การเมืองเดินหน้าต่อ / 1,520-1,540
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways to sideways up : การเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อน SET Index หลังการหารือที่ประชุม 8 พรรคร่วมฯ เมื่อวานนี้ มีมติเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตจากก้าวไกล ในการโหวตนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค. 66 และหากคะแนนไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จะถอยให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน ทั้งนี้การเข้าใกล้ตำแหน่งผู้นำรัฐบาลของเพื่อไทย คาดเป็น Sentiment ทางบวกต่อหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันจำกัดซึ่งได้ปรับตัวลงไปก่อนหน้านี้ จากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายทลายทุนผูกขาดของก้าวไกล ขณะที่วันที่ 19 ก.ค. 66 ศาลรธน.จะพิจารณาคำร้องของกกต.ใน ประเด็นสถานะของนายพิธาจากปมถือหุ้น ITV โดยหากศาลรธน.มีการรับคำร้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งคาด SET Index จะมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรงบ 2Q66 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศงบออกมาในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ทางขึ้นของ SET Index ถูกจำกัดจากความขัดแย้งนอกรัฐสภา โดยเฉพาะจากฝั่งผู้สนับสนุนก้าวไกลที่อาจยกระดับการชุมนุมขึ้น หลังมีแนวโน้มว่านายพิธาอาจจะยังไม่ใช่นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย ทั้งนี้จากข้อมูลในอดีตพบว่า SET Index ปรับตัวลง 2 ใน 3 ครั้งที่มีการชุมนุมใหญ่ (พรบ. -54.14% นปช. +9.67% และ กปปส. -3.48%) ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานคาดเป็นแรงกดดันต่อ SET Index ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง 1.68% สู่ระดับ $74.15 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในจีน หลังการเปิดเผย GDP2Q66 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาด คาดหวังไว้
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) เก็งหุ้นคาดงบสดใส: BAY, BBL, BEM, KTB, SCB, TTB 2) หุ้นใหญ่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันจำกัด+เกี่ยวการเมือง: CPALL, GPSC, GULF, SC, SIRI, STEC, TRUE 3) หุ้นรับประโยชน์จาก EL Nino: NER, SAPPE, STA, WHAUP
ปัจจัยบวก
- ก.พาณิชย์เผยจีนมีความต้องการนําเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและอาหารทะเลจากทั่วโลก เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังตลาดจีน คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกสัตว์น้ำ เช่น ASIAN, TU
- ฟิทช์เผยการฟื้นตัวของกาคค้าปลีกจีนในปี 66 จะทําให้รายได้และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจค้าปลีกนอกภาคอาหารหวนคืนสู่ภาวะปกติ หลังจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด
- Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ที่ศก.สหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยมองว่ามีโอกาส 20% ที่จะเกิดภาวะศก.ถดถอย จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 25%
- คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าเห็นชอบให้ BCP ซื้อหุ้น ESSO จาก ExxonMobi โดยความคืบหน้าดังกล่าวคาดเป็น Sentiment ทางบวกต่อหุ้น BCP และ ESSO
ปัจจัยลบ
- JP Morgan ปรับลดการคาดศก.จีนจะเติบโตที่ 5% ในปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.5% หลังจากเติบโตในอัตราที่อ่อนแอลงใน 2Q66 โดยศก.จีนชะลอตัวอย่างรวดเร็ว หลังเพิ่งฟื้นตัวจากโควิดได้ไม่นาน
- การว่างงานในหมู่วัยรุ่นจีนพุ่งสูงทำสถิติใหม่ที่ 21.3% สำหรับผู้ที่มีอายุ 16-24 ปี ในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางความพยายามที่จะฟื้นศก.หลังการยกเลิกมาตรการคุมโควิด ที่ยังดูเหมือนจะซบเซา
- รัสเซียประกาศยุติการมีส่วนร่วมในข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ ซึ่งเป็นการสร้างความกังวลวิกฤตอาหารโลกและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในยุโรป
PICKS OF THE DAY
BBL BUY
- เป้าหมาย 164.50 / 170.00 แนวรับ 155.00 / 158.00
- คาดกำไร 2Q66 โตเด่น: คาดว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น จะทำให้ BBL มีกำไร 11.5 พันลบ. เติบโตถึง 65.1%y-y เด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร
- ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และรับความเสี่ยงได้มาก: ด้วยโครงสร้างสินเชื่อและเงินฝาก ทำให้ BBL เป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นมากที่สุด และ BBL เป็นธนาคารที่รับความเสี่ยงได้มาก เนื่องจากมีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงถึง 243% จากค่าเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 171%
NER BUY
- เป้าหมาย 4.72 / 4.90 แนวรับ 4.44 / 4.50
- ยานยนต์จีนเติบโต: ยอดส่งออกรถยนต์ของจีนในช่วงครึ่งปีแรก +75.7%y-y ซึ่งเป็นยอดส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่พุ่งขึ้น +160% y-y จีนยังหนุนความต้องการใช้ยางในปีนี้ โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ผู้ประกอบการยานยนต์ในจีนโดยตรงคือ NER
- 2Q66 กำไร +q-q: NER เป็นที่รู้จักของลูกค้าชาวจีนเป็นอย่างดี คาดว่า กำลังการผลิตใน 2Q66 ยังคผลิตได้เต็มกำลังผลิต เทียบเท่ากับ 1Q66 แต่ด้วยราคายางเฉลี่ยใน 2Q66 สูงกว่า 1Q66 อ้างอิงข้อมูลส่งออก คาดว่าไตรมาสนี้มีกำไรเพิ่มขึ้น q-q ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ มองว่ายังมี up side ตอบรับผลประกอบการของ 2Q66 ได้