มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย (“MCA”) ผู้นำธุรกิจวางแผนกิจกรรมทางการตลาด แบบ one stop service ยื่นไฟลิ่ง จ่อเสนอขาย IPO 60 ล้านหุ้น เล็งระดมทุนเข้า mai
บมจ.มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย (“MCA”) ผู้นำธุรกิจด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบครบวงจร ยื่นไฟลิ่งสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จ่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อขยายธุรกิจ ตอบโจทย์การรองรับกลุ่มลูกค้าได้ครบวงจรมากขึ้น กรุยทางเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาคเอเชีย
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (“MCA”) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทางบริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ของ MCA ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย MCA จะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 26.09% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) โดยแบบคำขออนุญาตและร่างหนังสือชี้ชวนดังกล่าว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 115 ล้านบาท เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทมหาชน และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
MCA เป็นหนึ่งในผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และเป็นผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดได้อย่างครบวงจร ผ่านรูปแบบของกิจกรรมการตลาดภาคสนาม (Field Marketing) ที่สามารถตอบโจทย์ทุกกิจกรรมทางการตลาดให้กับกลุ่มลูกค้าได้ครบทุกมิติ ตั้งแต่การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) การสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่ม ผู้อุปโภคบริโภค (Customer Engagement) ตลอดจนการผลักดันยอดขาย (Boost Sales) ภายใต้การให้บริการ อาทิ การจัดตั้งบูธสินค้า (Booth) การจัดโร้ดโชว์สินค้า (Roadshow) การจัดกิจกรรมทางการตลาด (Marketing Event) เช่น กิจกรรมการเปิดตัวสินค้า (Product Launch) รวมถึงบริการจัดกิจกรรมในรูปแบบดิจิทัล (Digital) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า และสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้า และการให้บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า (Packing & Logistic) ซึ่งช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในกิจกรรมทางการตลาดของลูกค้าเพิ่มเติม การให้บริการพนักงานแนะนำสินค้า (Product Consultant) และบริการพนักงานจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยส่งเสริมการขายสินค้า ณ จุดขายสินค้า ในแต่ละสถานที่จัดจำหน่าย ช่วยให้ผู้บริโภครับทราบข้อมูลสินค้า รวมถึงกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีฐานข้อมูลพนักงานผู้ให้บริการภายนอก (Outsource) มากกว่า 6,500 คน ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์ของ MCA ที่ให้บริการแก่ลูกค้าชั้นนำจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งแบรนด์สินค้าในประเทศและต่างประเทศ 12 ปี ภายใต้การบริการ
1) บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล 2) บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า 3) บริการพนักงานแนะนำสินค้า และ 4) บริการจัดเรียงสินค้า เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านบริการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย
นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย (“MCA”)เปิดเผยว่า หัวใจหลักที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของ MCA คือ“ความเชื่อใจ วัดผลได้ อย่างมืออาชีพ”เพราะบริษัทฯเชื่อว่าระบบที่ดีจะสร้างผลงานที่มีคุณภาพ และทีมงานที่ดีจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือแรงขับเคลื่อนองค์กรสู่การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ เพื่อยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากล และสร้างมูลค่าเพิ่มการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ การมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจบริการกิจกรรมทางการตลาดและการสร้างสรรค์อย่างครบวงจร โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจึงนำไปสู่ผลสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศ และในระดับภูมิภาคเอเชียต่อไป สู่พันธกิจที่จะมุ่งมั่นพัฒนาบริการ ศักยภาพบุคลากร นวัตกรรม พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้ถือหุ้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับผลตอบแทนสูงสุด
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งรวมถึงธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) และรองรับการลงทุนในสินทรัพย์ สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายรูปแบบ ครบทุกมิติมากขึ้น รวมทั้งเพื่อใช้ในการชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัทฯในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวตอกย้ำว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ส่งผลให้ปัจจุบัน MCA ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดที่ครบวงจร อันดับต้นๆของประเทศ เนื่องจากในภาคอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน มีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบดังกล่าวได้ครบทุกมิติเหมือนกับ MCA แต่บริษัทฯก็ยังคงวางยุทธ์ศาสตร์เพื่อเดินเกมรุกทางธุรกิจแบบไม่หยุดนิ่งที่จะมุ่งสู่การขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ Cold Call เพื่อแนะนำธุรกิจและบริการของเรากับลูกค้ารายใหม่ๆ และกลยุทธ์ Word of mouth ซึ่งเป็นการแนะนำลูกค้าแบบปากต่อปาก รวมถึงการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าที่เคยใช้บริการ เพื่อแนะนำกลยุทธ์และนำเสนอบริการให้แก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
“ในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมาภาพรวมในทุกอุตสาหกรรมเกิดการชะลอตัว ส่งผลให้ทุกองค์ต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่ง MCA ได้ปรับกลยุทธ์โดยขยายขอบเขตการให้บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดสู่งานในรูปแบบออนไลน์ (Online) พร้อมทั้งบริการสนับสนุนในกลุ่มบริการงานดิจิทัล (Digital)และขยายธุรกิจบริการจัดเรียงสินค้า รูปแบบบริการแบบใช้ร่วมกัน (Shared Merchandiser) สำหรับช่องทางการขายกลุ่มห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) และร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) นอกจากนี้ เมื่อรวมการขยายธุรกิจใหม่ ในการเข้าไปเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) จะช่วยทำให้ MCA เพิ่มการเข้าไปมีส่วนร่วมกับเจ้าของสินค้าในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดตั้งแต่ต้นน้ำ (Product Introduction) จนถึงการที่สินค้าได้ไปอยู่ในมือผู้บริโภค (Off-Take) เพื่อให้ตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้าให้มากที่สุด”
จากความทุ่มเทในการให้บริการการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และเป็นผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดได้อย่างครบวงจร สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของรายได้ของธุรกิจใน 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2565) MCA มีรายได้จากการบริการรวม 331.67 ล้านบาท 235.62 ล้านบาท 224.07 ล้านบาท 372.65 ล้านบาท ตามลำดับ (สาเหตุปี 2563 – 2564 ปรับตัวลดลงเนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจจากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 แต่ในปี 2565 รายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทฯ จากการขยายธุรกิจบริการจัดเรียงสินค้า รูปแบบบริการแบบใช้ร่วมกัน และการฟื้นตัวของธุรกิจบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล ในขณะเดียวกัน ไม่มีผลขาดทุนในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยกำไรสุทธิเท่ากับ 53.56 ล้านบาท 0.73 ล้านบาท 2.74 ล้านบาท และ 16.51 ล้านบาท ตามลำดับ