บล.บัวหลวง:
EV – ปักฐานสู่ยุค EV (OVERWEIGHT)
เราคาดยอดขาย SAT จะเติบโตเล็กน้อย YoY เนื่องจากอุปสงค์ที่เกี่ยวข้องกับรถแทรกเตอร์ลดลง สําหรับ AH เราคาดว่ายอดขายจะเติบโตดี YoY หนุนโดยอุปสงค์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ และเรายังคงชอบ NEX ซึ่งเป็นผู้นำธีม EV
AH และ SAT-อุปสงค์เติบโต YoY ในไตรมาส 2/66 (ลดลงตามฤดูกาล QoQ)
ทั้ง AH และ SAT คาดว่าจะรายงานรายได้เติบ YOY ในไตรมาส 2/66 จากการรับรู้รายได้ทั้งไตรมาสจากคําสั่งซื้อหลายรายการ เช่น เพลา (สําหรับ SAT และ AH), Vinfast และสําหรับ AH-ตัวแทนจําหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ไตรมาสที่สองเป็นช่วงที่โลว์ซีซั่นสําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ดังนั้นยอดขายจะลดลง QoQ สําหรับ AH เราคาดรายได้ในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 7,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY แต่ลดลง 8% QoQ และอัตรากําไรหลักที่ 5.5% (เพิ่มขึ้นจาก 4.6% ในไตรมาส 2/65) ประมาณการกำไรของเราในไตรมาสนี้อยู่ที่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% YoY แต่ลดลง 32% QoQ เราคาดกำไรหลักของ SAT อยู่ที่ 213 ล้านบาท ทรงตัว YoY และลดลง 22% QoQ (อุปสงค์ที่เกี่ยวข้องกับรถแทรกเตอร์ลดลง)
NEX และ FORTH-อุปสงค์จะขยายตัวต่อเนื่อง
เราคาดว่า NEX ส่งมอบรถ EV จํานวน 500 คันในไตรมาส 2/66 (ลดลงจาก 563 คันในไตรมาส 1/66) โดยส่งมองให้กับ Thai Smile Bus Co Ltd. เป็นหลัก รายได้อาจลดลง 6% QoQ แต่อัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพของโรงงานที่สูงขึ้น ค่าวัตถุดิบสำหรับแบตเตอรี่ที่กลับมาปกติ และค่าขนส่งที่ลดลง เราคาดกำไรหลักที่ 275 ล้านบาทในไตรมาส 2/66 พลิกกลับ YoY และเพิ่มขึ้น 81% QoQ
FORTH คาดว่าจะรายงานรายได้ที่ 2,689 ล้านบาทในไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้น 24% YoY และ 7% QoQ หนุนโดยจํานวนตู้เต่าบินที่ดำเนินการเพิ่มขึ้น และคำสั่งซื้อจากธุรกิจ EMS ที่เพิ่มขึ้น เราคาดอัตรากำไรหลักที่ 8.7% ทรงตัว YoY ส่งผลให้กำไรอยู่ที่ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY และทรงตัว QoQ เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ของ FORTH ลงจาก 1,201 ล้านบาท มาอยู่ที่ 928 ล้านบาท เนื่องจากเราปรับลดประมาณการตู้เต่าบินลง ดังนั้นราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ของเราจึงปรับลดลงจาก 37.75 บาท เหลือ 30 บาท
แนวโน้มไตรมาส 3/66 เราชอบ NEX มากที่สุดในกลุ่ม
เมื่อมองไปยังไตรมาส 3/66 เราคาดว่า NEX จะรายงานยอดขายและกำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากการส่งมอบ E-bus ประมาณ 1,600 คัน ให้กับ Thai Smile Bus ภายในเดือนก.ย. และมีแผนที่จะลดการผลิตชิ้นส่วน เพื่อเพิ่มอัตรากำไร นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มส่งออกไปยังเวียดนาม (E-bus และ E-truck จํานวน 470 คัน) และอินโดนีเซีย (E-bus จํานวน 300 คัน) ในครึ่งหลังของปี 2566 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และ NEX เป็นผู้นำของไทยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไร้คาร์บอนในไตรมาส 3/66 กำไรของ FORTH จะเพิ่มขึ้น YoY (ตู้เต่าบินที่ดำเนินการมากขึ้น) และ QoQ (ตามปัจจัยฤดูกาลสำหรับธุรกิจ EMS และ Smart Solution) AH และ SAT จะได้รับคำสั่งซื้อใหม่ในไตรมาส 3/66 ซึ่งหนุนยอดขายและกำไร QoQ แต่เราคาดว่าการลดขนาดสินค้าคงคลังในอุตสาหกรรมยานยนต์ จะส่งผลยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์หลักมีแนวโน้มลดลง YoY ทั้งนี้ AH มีแนวโน้มรายงานรายได้และกำไรสุทธิเติบโต YoY เนื่องจากการซื้อหุ้น 60% ใน Advanced Vehicle Engineering Global Sdn Bhd (AVEE) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของมาเลเซีย กำไรไตรมาส 3/66 ของ SAT มีแนวโน้มทรงตัว YoY เนื่องจากอุปสงค์ รถแทรกเตอร์ที่อ่อนแอ
