บล.ฟิลลิป:
SPRC : คาดขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน
ซื้อ TP’66: 9.80
คาด 2Q66 จะขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน และค่าการกลั่นที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายมองว่าไตรมาสนี้จะเป็นจุดต่ำสุด เนื่องจากแนวโน้มค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น และจะเริ่มมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี โดยทางฝ่ายปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”
งบรวม | 2Q66E | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66E | 6M65 | % y-y |
กําไร | -2,047 | 1,219 | 7,156 | -128.6 | -267.9 | -828 | 12,440 | -106.7 |
EPS | -0.47 | 0.28 | 1.65 | -128.6 | -267.9 | -0.19 | 2.87 | -106.7 |
หมายเหตุ: กําไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 2Q66 พลิกเป็นขาดทุน : คาด 2Q66 ขาดทุน 2,047 ลบ. ลดลง q-q, y-y ทั้งนี้เนื่องจาก 1) ค่าการกลั่นปรับตัวลง จาก 6.36 $/bbl ใน 1Q66 เหลือ 1.4-2.4 $/bbl 2) แม้จะมีปัจจัยช่วยหนุนจาก crude premium ที่ลดลงเหลือประมาณ 2.96 $/bbl จาก 4.96 $/bbl แต่ยังขาดทุนสต๊อกน้ำมันประมาณ 1,100 ลบ. จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจาก 80.2 $/bbl ใน 1Q66 เหลือ 75.0 $/bbl 3) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 150 ลบ. นอกจากนี้คาดอัตราการกลั่นใกล้เคียง 1Q66 ที่ระดับ 158-162 kbd ลดลงประมาณ 1-2% q-q โดยรวมครึ่งปีแรกผลประกอบการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน และค่าการกลั่นที่ลดลงจากฐานที่สูงจากปีที่แล้ว (2Q65 ค่าการกลั่นเฉลี่ย 19 $/bbl) ซึ่งสอดคล้องกับโรงกลั่นอื่นๆ
- คาดการครึ่งหลังค่าการกลั่นปรับขึ้น : ฝ่ายคาดว่าครึ่งปีหลังผลประกอบการจะค่อยๆ ฟื้นตัว จากค่าการกลั่นที่เริ่ม ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน SG GRM ปรับตัวขึ้นมาระดับ 7-8 $/bbl มากกว่าค่าเฉลี่ย 2Q66 ประมาณ 3-4 $/bbl ประกอบคาดว่าอุปสงค์การใช้น้ำมัน Gasoline จะเพิ่มขึ้นในช่วง Driving Season นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในครึ่งปีหลัง น่าจะทยอยปรับขึ้น ช่วยหนุนให้มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน จากมุมมองบวกข้างต้นและปัจจุบันราคาหุ้นน่าจะสะท้อนผลประกอบการไตรมาสนี้แล้ว ทางฝ่ายยังคงราคาพื้นฐาน 9.80 บาท และปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”