รอติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และเลือกนายกฯ ไทย
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.5% ภาพรวมเป็นเพียงแรงซื้อปกติ โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการและการประชุม FED ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.1% รับแรงหนุนจากคาดการณ์จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมา ช่วงบ่ายตามเวลาประเทศไทยฝั่ง EU อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) พบว่าส่วนใหญ่แล้ว รายงานต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้และหลายๆประเทศต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว อย่างไรก็ตาม ภาคบริการยังเกินกว่าระดับ 50 สำหรับสหรัฐฯ ก็เปิดเผย PMI เบื้องต้นเช่นกันพบว่าภาคผลิตอยู่ที่ 49 สูงกว่า Bloomberg คาดที่ 46.1 แต่ภาคบริการออกมาที่ 52.4 ต่ำกว่า Bloomberg คาดที่ 54
สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้ ช่วงบ่ายมีรายงานออกมาว่าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นชอบยื่นศาลรัฐธรรมนูญชะลอโหวดนายกรัฐมนตรีรอบ 3 ออกไปก่อนจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยต่อปมเสนอชื่อคุณพิธาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ด้านประธานสภาก็ได้ออกมาระบุว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 26 ก.ค. รวมถึงต้องฟังผลการหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล มาประกอบการพิจารณา ซึ่งคาดว่าวันนี้จะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง ประเด็นข้างต้นเป็นปัจจัยกดดัน SET INDEX ช่วงบ่ายวันนี้ อย่างไรก็ตาม จากนี้ต้องรอ แถลงการณ์ว่าจะเลื่อนวันโหวดนายกรัฐมนตรีจากเดิม 27 ก.ค. ออกไปหรือไม่ หากเลื่อนออกไปก็มองเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น
สำหรับปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 112.1 หากต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น โดยปัจจัยหลักที่นักลงทุนทั่วโลกรอติดตาม ได้แก่การประชุม FED ที่จะทราบผลทางการช่วงเช้าวันพฤหัสบดีเวลาประเทศไทย CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 99.6% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของประธาน FED มีผลมากกว่า
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวใน กรอบ 1515 – 1530 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุนเชื่อว่า SET มี Upside ที่จำกัดหลังจาก Price In ประเด็นด้านการเมืองไปแล้ว ขณะที่ปัจจัยบวกจากต่างประเทศก็รับรู้ไประดับนึงแล้ว (ผ่อนคลายดอกเบี้ย) ส่วนการ Trading แนะกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) กลุ่มโรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
PTTEP (ถือ / ราคาเป้าหมาย 162.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ที่ 2.02 หมื่นล้านบาท (-2.0% YoY, +4.7% QoQ) แม้ปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยจะอ่อนแอ แต่กำไรสุทธิจะได้แรงหนุนจากภาษีจ่ายที่ลดลงและกำไรพิเศษ US$40.0 ล้านจากรการป้องกันความเสี่ยงและอัตราแลกเปลี่ยน (FX) เราปรับมามองบวกต่อภาพรวมในครึ่งหลังปี 2023 เพราะการที่ OPEC+ ลดการผลิตลงอาจดันราคาน้ำมันดิบขึ้นเหนือ US$80/บาร์เรล ปริมาณขายก็จะฟื้นตัวขึ้นจากการเร่งการผลิตโครงการเอราวัณ G1/61 เป็น 400 mmcfd ภายในสิ้นปีนี้ (2 เท่าจากปัจจุบัน)
SPRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) คาดถึงผลขาดทุนสุทธิที่ 2.1 พันล้านบาทในไตรมาส 2/23 ลดจากกำไร 7.2 พันล้านบาทนไตรมาส 2/22 และ 1.2 พันล้านบาทในไตรมาส 1/23 อุดจากค่าการกลั่นที่อ่อนแอและขาดทุนสต็อกน้ำมัน ขณะที่ประเมินว่าค่าการกลั่นตลาดจะลดเหลือ US$2.1/บาร์เรล หรือหดตัว 89% YoY และ 67% QoQ หลังจากส่วนต่างราคาน้ำมัน ชนิดกลางอ่อนตัวลง เพราะสภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนภาพรวมครึ่งหลังปี 2023 ยังสดใสเพราะคาดว่ากําไรจะฟื้นตัวจากขาดทุนในไตรมาส 2/23