บล.บัวหลวง:
Thaifoods Group (TFG TB/TFG.BK)
TFG – ราคาหมูไทยที่ลงแรงส่งผลให้ปรับลดประมาณการกำไรลงจากเดิม
ราคาหมูมีชีวิตไทยที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ส่งผลให้เราทําการปรับลดประมาณการกําไรปี 2566 ลงจากเดิม เรามองว่าตราบใดที่ราคาหมูมีชีวิตไทยยังคงไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน นักลงทุนยังคงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเข้าลงทุนในหุ้น TFG แต่อย่างใด ถึงแม้ว่าคำแนะนำของเราสําหรับหุ้น TFG ยังคงเป็น “ซื้อเก็งกำไร” ก็ตาม
ส่องกล้องไตรมาส 2/66-กำไรหลักลดลงแรงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 150 ล้านบาท ลดลง 88% YoY และ 65% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาสนี้ ซึ่งได้แก่ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ และรายการกำาไรพิเศษอื่นๆ เราคาด กําไรหลักไตรมาสนี้ที่ 250 ล้านบาท ลดลง 84%YoY และ 51%QoQ ประมาณการใหม่สําหรับกำไรไตรมาส 2/66 ในครั้งนี้ถือว่าต่ำกว่าประมาณการในครั้งก่อนหน้า ซึ่งเราคาดก่อนหน้าเป็นกำไรสุทธิที่ 320 ล้านบาท และกําไรหลักที่ 300 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าที่เคยคาดก่อนหน้า เราคาดอัตรากำาไรขั้นต้นไตรมาส 2/66 ที่ 9.5% ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมาก จาก 22.3% ในไตรมาส 2/65 และ 12.8% ในไตรมาส 1/66 กําไรหลักที่ปรับตัวลงแรง YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงอย่างมาก (ซึ่งหลักๆ มาจากอัตรากําไรขั้นต้นของธุรกิจไก่และธุรกิจหมูที่ปรับตัวลดลง) และภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกลบยอดขายที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง เราคาดยอดขายสําหรับไตรมาส 2/66 ที่ 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 1% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์ (เพิ่มขึ้น 28% YoY) และยอดขายธุรกิจอื่นๆ (เพิ่มขึ้นแรง 156% YoY) ส่วนใหญ่ของยอดขายธุรกิจอื่นๆ จะมาจากยอดขายของธุรกิจร้านค้าปลีก “ไทย ฟูดส์ เฟรช มาร์เก็ต” ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกลบยอดขายของธุรกิจไก่ที่ลดลง (ลดลง 25% YoY จากวอลุ่มขายไก่ที่ลดลง) และยอดขายของธุรกิจหมูที่ลดลง (ลดลง 4% YoY จากราคาขายหมูเฉลี่ยที่ลดลง)
วอลุ่มขายไก่ที่ลดลงบวกกับราคาหมูที่ลดลงเป็นปัจจัยฉุดกำไรไตรมาส 2/66
สําหรับธุรกิจไก่ เราคาดวอลุ่มขายไก่ในไตรมาส 2/66 ที่ 5.45 หมื่นต้น ลดลง 26% YoY และ 12% QoQ ในขณะที่ราคาขายไก่เฉลี่ยในไตรมาสนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 59.8 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% YoY และทรงตัว QoQ สำหรับธุรกิจหมู เราคาดวอลุ่มขายหมูในไตรมาส 2/66 ที่ 2.8 หมื่นตัน เพิ่มขึ้น 23% YoY และ 1% QoQ ราคาขายหมูเฉลี่ยในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 72 บาท/กก. ลดลง 28% YoY และ 11% QoQ สําหรับธุรกิจอาหารสัตว์ เราคาดวอลุ่มขายอาหารสัตว์ในไตรมาสนี้ที่ 1.46 แสนตัน เพิ่มขึ้น 14% YoY และ 2% QoQ และราคาขายอาหารสัตว์เฉลี่ยในไตรมาสนี้ที่ 17,200 บาท/ตัน เพิ่มขึ้น 12%YoY และ 1%QoQ ยอดขายจากธุรกิจอื่นๆ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 156%YoY และ 14% QoQ ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการขยายร้านค้าปลีก “ไทย ฟูดส์ เฟรช มาร์เก็ต” (เพิ่มขึ้นเป็น 287 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2/66 จาก 132 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2/65 และ 239 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1/66) เราคาดวอลุ่มส่งออกไก่ในไตรมาสนี้มีแนวโน้มลดลง 21% QoQ มาอยู่ที่ 1.65 หมื่นต้น เนื่องจากคำสั่งชื้อที่อ่อนตัวลงจากประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และจีน และฐานวอลุ่มส่งออกที่สูงมากผิดปกติในไตรมาส 1/66
สถานการณ์ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่ดูแย่ลงไปกว่าเดิม
ราคาหมูมีชีวิตไทยปรับตัวลดลง 23% เหลือ 59 บาท/กก. (สำหรับตลาดจังหวัดนครปฐม) ในช่วงวันที่ 17-24 ก.ค. (เทียบกับราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/66 ที่ 77 บาท/กก.) และปรับตัวลดลง 17% เหลือ 65.5 บาท/ กก. (สําหรับตลาดกทม.) ในช่วงวันที่ 11-24 ก.ค. (เทียบกับราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/66 ที่ 79 บาท/กก.) เนื่องจากสถานการณ์ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ดูแย่ลงไปกว่าเดิม บวกกับอุปทานหมูในตลาดที่เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการหมูรายใหญ่ของประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มที่จะพลิกกลับไปรายงานเป็นขาดทุนสุทธิ และขาดทุนหลักเนื่องจากราคาหมูมีชีวิตไทยที่ปรับตัวลดลงทั้ง YoY และ QoQ ราคาหมูมีชีวิตไทยเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (วันที่ 1 ม.ค.-24 ก.ค.) อยู่ที่ 80.2 บาท/กก. (สำหรับตลาดจังหวัดนครปฐม) และ 82.8 บาท/กก. (สำหรับตลาดกทม.)
ราคาหมูไทยที่ลงแรง และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับลดลง ส่งผลให้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566
เนื่องจากเราทำการปรับลดสมมติฐานราคาหมูมีชีวิตไทยเฉลี่ย (จาก 86 บาท/กก. เหลือ 80 บาท/กก.) และอัตรากำไรขั้นต้น (จาก 13.9% เหลือ 9.5%) สำหรับในปี 2566 ลงจากเดิมส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิ ปี 2566 ปรับลดลงจากเดิมอีก 76% (จาก 2.83 พันล้านบาทเหลือ 689 ล้านบาท) และราคาเป้าหมายของเราปรับลดลงอีก 24% (จาก 5.9 บาทเหลือ 4.5 บาท)