บล.ฟิลลิป:
PLANB : คาด 2Q66 กำไร +q-q, +y-y
IAA Consensus TP’66: 7.77-10.90
จากอุตสาหกรรมโฆษณาที่มีการใช้งบผ่านช่องทางสื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่มากขึ้น ส่งผลดีต่อ PLANB ที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ ทำให้ U Rate ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ 2Q66 รายได้และกำไรเติบโตทั้ง q-q และ y-y ในขณะที่ภาพครึ่งปีหลังยังดูดีจาก high season และรับรู้รายได้จากเอเชียนเกมส์มากขึ้น
- คาด 2Q66 กำไร +q-q, +y-y จาก U Rate ของ OOHM ที่สูงขึ้น: จากการฟื้นตัวของการใช้งบโฆษณาทางสื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่รายงานโดยนีลเส็น +9.9% q-q และ +25.9% y-y คาดอัตราการขาย (U Rate) ดีขึ้นเป็น 70% ของ Media Capacity ที่ 2,230 ลบ. จาก 1Q66 ที่ 64.8% และ 2Q65 ที่ 57.3% คาดรายได้ OOHM เติบโต +11% q-q และ +20% y-y เป็น 1,560 ลบ. โดยส่วนหนึ่งมาจากการโฆษณาสื่อบนรถบัสที่มีรถเพิ่มขึ้นอีก 824 คัน และการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement Market) คาดรายได้เติบโตขึ้น จากการรับรู้รายได้จากสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง จากเริ่มรับรู้รายได้เอเชียนเกมส์ที่ 50 ลบ. ในขณะที่ฟุตบอลและมวยยังคงมีเข้ามาต่อเนื่อง อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะใกล้เคียง 2Q65 ที่ 28.5% แต่สูงกว่า 1Q66 ที่ 25.1% จากรายได้ที่สูงขึ้น และ SG&A/Sale คาดปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 13-13.5% เทียบ 1Q66 ที่ 13.3% และ 2Q65 ที่ 12.6% คาดว่าจะมีกำไรที่ 200-210 ลบ. จาก 1Q66 ที่ 132 ลบ. และ 2Q65 ที่ 174 ลบ.
- 2H66 หลังคาดว่าจะดีกว่า 1H66: ใน 2H66 มองจะดีกว่า 1H66 จากฤดูกาล 2H จะดีกว่า 1H ทำให้ U Rate เพิ่มขึ้น โดย PLANB คาดว่า U Rate ในปี 2566 อยู่ที่ 60-65% ซึ่ง 1H66 ทำได้ที่ 67.4% ดีกว่าแผน และ 2H66 จะรับรู้รายได้จากเอเชียนเกมส์ที่จัด 23 ก.ย. – 8 ต.ค. 2566 ที่หางโจว ประเทศจีน อีก 200 ลบ. และจากรายการมวยเพิ่มขึ้นปีนี้ PLANB ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจการตลาดฯที่ 1,700 ลบ. จากปี 2565 ที่ 1,312 ลบ. ในขณะที่ GPM รวมคาดไว้ที่ 25-30% ยั่งอยู่ในกรอบ ทำให้ในปีนี้ยังเห็นกำไรที่เติบโตได้ y-y อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเมืองอาจมีผลในครึ่งปีหลัง หากมีการชุมนุมประท้วง ทำให้ผู้ลงโฆษณามีการชะลอใช้งบโฆษณาได้