บล.บัวหลวง:
SCG Packaging (SCGP TB/SCGP.BK)
SCGP – กำไรหลักไตรมาส 2/66 เป็นไปตามคาด แนวโน้มเติบโต YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/66
กําไรหลักเป็นไปตามคาด แต่กําไรสุทธิสูงกว่าคาด
SCGP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 1,485 ล้านบาท ลดลง 20% YoY แต่เพิ่มขึ้น 22% QoQ หากไม่รวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 115 ล้านบาท กําไรหลักจะอยู่ที่ 1,370 ล้านบาท ลดลง 10% YoY แต่เพิ่มขึ้น 28% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แต่กำไรสุทธิสูงกว่าที่เราคาด 7% (สูงกว่าตลาดคาด 8%) เนื่องจากกําไรจากรายการพิเศษ ทั้งนี้ SCGP ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท/หุ้น (จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 ส.ค. และจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 22 ส.ค.)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
ปัจจัยที่ส่งผลให้กำไรหลักปรับตัวลดลง YoY ได้แก่ 1) รายได้จากการขายของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่ลดลง (ปริมาณขายและราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง), 2) รายได้จากการขายของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษที่ลดลง (ราคาขายเยื่อกระดาษที่ลดลง), 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น (สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย อยู่ที่ 11.7% เพิ่มขึ้นจาก 11.1% ในไตรมาส 2/65), 4) ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น, และ 5) รายได้อื่นที่ลดลง ในขณะที่ปัจจัยที่หนุนให้กำไรหลักปรับตัวสูงขึ้น QoQ ได้แก่ 1) รายได้จากการขายของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษที่เพิ่มขึ้น (ปริมาณขายบรรจุภัณฑ์อาหารและกระดาษพิมพ์เขียนที่เพิ่มขึ้น), 2) EBITDA ของสาย ธุรกิจเยื่อและกระดาษที่สูงขึ้น (ต้นทุนการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนและค่าขนส่งที่ลดลง), 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง (สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการ ขายและบริหารต่อยอดขายลดลงจาก 12.5% ในไตรมาส 1/66), และ 4) อัตราภาษีจ่ายที่ลดลง
EBITDA margin ของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรอยู่ที่ 15% เพิ่มขึ้นจาก 12% ในไตรมาส 2/65 และ 14% ในไตรมาส 1/66 ในขณะที่ EBITDA margin ของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษอยู่ที่ 16% ลดลงจาก 18% ในไตรมาส 2/65 แต่เพิ่มขึ้นจาก 13% ในไตรมาส 1/66
แนวโน้ม
หากมองไปไตรมาส 3/66 คาดปริมาณขายของ SCGP จะปรับตัวขึ้น YoY และ QoQ หนุนโดยอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งใน ASEAN และประเทศจีน นอกจากนั้น โดยปกติไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วงไฮซีซันของอุปสงค์บรรจุภัณฑ์ ดังนั้นราคา กระดาษบรรจุภัณฑ์น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาเยื่อกระดาษอาจยังถูกกดดันจากอุปสงค์ภาคสิ่งทอที่ยังชะลอตัว ในด้านต้นทุน ราคาวัตถุดิบ RCP (วัตถุดิบหลัก) ค่าขนส่ง และต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวลดลงทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/66 ดังนั้นเราจึงคาดว่าอัตรากําไรและกําไรหลักของ SCGP ในไตรมาส 3/66 จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เราได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลง 10% มาอยู่ที่ 5,622 ล้านบาท เพื่อสะท้อน 1) การปรับลดสมมติฐานราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ลง 3% (มาอยู่ที่ 415 เหรียญสหรัฐ/ตัน) และ 2) รายการพิเศษที่จะรับรู้ในช่วง ครึ่งแรกของปี 2566 ดังนั้นราคาเป้าหมายจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด ณ สิ้นปี 2566 ของเราจึงลดลงจาก 62 บาท มาอยู่ที่ 56 บาท (WACC ที่ 7.7% และ terminal growth ที่ 3.5%)
คำแนะนำ
คาดการณ์การเติบโตของกาไรในไตรมาส 3/66 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป และยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของเราจากการลงทุนใหม่ๆ ซื้อ!